รายงานชุดล่าสุดจาก IDC พบว่ายอดขาย iPhone ลดลงมากที่สุดในช่วงต้นปี 2024 จนทำให้ Samsung กลับมาเป็นแบรนด์ที่มียอดขายสมาร์ตโฟนมากที่สุดในโลกอีกครั้ง ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ยอดขาย iPhone ลดลงไปมากขนาดนี้คือยอดขายในจีนที่ลดลงไปมากนั่นเองครับ
นาบิลลา โพพาล (Nabila Popal) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ IDC กล่าวกับทาง CNN ว่า “ถือว่าเป็นเรื่องที่ตกต่ำมาก ๆ สำหรับ Apple แต่ถ้ามองในช่วง 4 ปีที่ผ่าน iPhone เป็นแบรนด์ที่มีความยืดหยุ่น ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานและความท้าทายระดับมหภาค มากกว่าแบรนด์อื่น ๆ”
Samsung เป็นเบอร์ 1 ของโลกมาทั้งหมด 12 ปี ก่อนจะถูก Apple ล้มได้ในไตรมาสที่แล้ว เพียงไตรมาสเดียว แล้วก็สามารถพลิกกลับมานำ Apple ได้อีกครั้ง จริง ๆ เป็นเรื่องที่ถือว่ามีนัยสำคัญมาก ๆ สำหรับ Samsung
ในปีนี้เราอาจเห็นการเติบโตของระบบปฏิบัติการ Android ที่มากกว่า iOS ถึง 2 เท่า เนื่องจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยอดขายสมาร์ตโฟน Android ลดลงไปอย่างมาก จึงมีช่องว่างมากพอที่จะทำให้ Android กลับมาโตได้มากอีกครั้ง
ประเทศจีนเป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญของ Apple รองลงมาจากสหรัฐอเมริกา แต่หลัง Huawei เปิดตัว Huawei Mate 60 ที่ใช้ชิป Kirin ก็กดดัน iPhone อย่างหนัก โดยชิป Kirin เองก็ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า Huawei และ SMIC ผลิตชิปออกมาได้อย่างไรในเมื่อทางการสหรัฐฯ พยายามขัดขวางสุดความสามารถ จนกระทั่งมีสื่อมาเฉลยว่า SMIC ได้พยายามซื้อเครื่องผลิตชิปจากบริษัทในสหรัฐอเมริกามา
นอกแรงกดดันด้านยอดขายในจีนแล้ว Apple ยังถือว่าเป็นบริษัทเทคที่มีความเคลื่อนไหวด้าน AI ช้ากว่าบริษัทอื่น ๆ ในขณะที่บริษัทคู่แข่งต่างลงทุนลงแรงในส่วนนี้มากกว่า Apple อย่างเห็นได้ชัดก็ทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ตกลงไปเป็นธรรมดา