แรงไม่มีแผ่ว! กับการยึดหลักเสรีภาพในการพูดหรือแสดงความคิดเห็นของแพลตฟอร์ม X ที่มีเรื่องบนหน้าสื่ออยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดวันเสาร์ที่ 20 เมษายน X กล่าวว่าจะเมินคำสั่งจาก eSafety หน่วยงานกำกับดูแลของออสเตรเลียจนกว่าเรื่องพิจารณาดีในศาล ซึ่งคำสั่งบอกให้ X ลบโพสต์บางส่วนที่เกี่ยวกับประเด็นเด็กชายวัยอายุ 16 ปี ก่อเหตุใช้มีดแทงบาทหลวง บิชอป มาร์ มารี เอ็มมานูเอล (Bishop Mar Mari Emmanuel) ในโบสถ์แห่งหนึ่งที่ซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเด็กชายได้ถูกฝูงชนจับตัวในที่เกิดเหตุ และเขาตะโกนกล่าวหาว่าบาทหลวงดูหมิ่นศาสนาอิสลาม จนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเด็กชายได้ถูกตำรวจตั้งข้อหาก่อการร้าย
บัญชี Global Government Affairs ของ X โพสต์ว่ากรรมาธิการ eSafety ของออสเตรเลียได้สั่งให้ X ลบโพสต์บางรายการในออสเตรเลียที่แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะ เกี่ยวกับการทำร้ายบาทหลวงที่นับถือศาสนาคริสต์เมื่อเร็ว ๆ นี้ โพสต์เหล่านี้ไม่ได้ละเมิดกฎของ X เกี่ยวกับคำพูดที่รุนแรง และเชื่อว่าคำสั่งดังกล่าว ไม่อยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายออสเตรเลีย และ X จะปฏิบัติตามเมื่อเรื่องอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาคดี
ทั้งนี้ eSafety ได้แจ้งให้ X ระงับโพสต์เหล่านี้ทั่วโลก ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับวันละ 785,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (18,549,479 บาท) ซึ่ง X อ้างว่า eSafety ไม่มีอำนาจกำหนดว่าเนื้อหาใดที่ผู้ใช้ของ X สามารถดูได้ทั่วโลก และจะต่อสู้อย่างจริงจังในศาล ส่วนในฝั่งของ eSafety ได้ัให้สัมภาษณ์ว่า “เรากำลังพิจารณาว่าจำเป็นต้องดำเนินการใด ๆ เพิ่มเติมหรือไม่”
eSafety เป็นหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลออสเตรเเลีย ที่ทำหน้าที่ลบเนื้อหาออนไลน์ที่เป็นอันตราย ซึ่งเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หน่วยงานฯ ได้ส่งจดหมายแจ้งไปยังบริษัทโซเชียลมีเดีย ได้แก่ YouTube, X และ Facebook รวมไปถึง Telegram และ Reddit โดยขอให้บริษัทเหล่านี้ส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับความพยายาม (ของบริษัท) ในการขจัดเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้าย
บิชอป มาร์ มารี เอ็มมานูเอล เป็นบาทหลวงที่โบสถ์ Assyrian Christ The Good Shepherd ซึ่งมีผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดียทั่วโลก เพราะเป็นนักเทศน์ที่เทศน์สอนตั้งแต่เนื้อหาในพระคัมภีร์ ไปจนถึงการวิพากษ์วิจารณ์การรักร่วมเพศ การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ศาสนาอิสลาม และการเลือกตั้ง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่สนับสนุนสิทธิของเกย์ (ขัดหลักทางศาสนา)
6 เมษายน อีลอน มัสก์ เจ้าของแพลตฟอร์ม X ได้ท้าทายว่าจะปฏิเสธการจำกัดทั้งหมดตามคำตัดสินของผู้พิพากษาบราซิล แม้ว่าบริษัทจะสูญเสียรายได้ทั้งหมดในบราซิลและต้องปิดสำนักงานในท้องถิ่นก็ยอม โดยอ้างว่าหลักการ (เสรีภาพในการพูด) มีความสำคัญมากกว่าผลกำไร แต่มีสื่อรายงานว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้เห็นจดหมายที่ทนายความของ X ส่งข้อความไปถึงผู้พิพากษาของบราซิล ซึ่งมีใจความว่า X จะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลบราซิลแต่โดยดีทุกประการ