TikTok เตือนว่ากฎหมายแบน TikTok ที่่เพิ่งผ่านความเห็นชอบโดยสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง จะ “เหยียบย่ำ” เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของชาวอเมริกัน 170 ล้านคน
สหรัฐฯ ใช้ระบบ 2 สภา กฎหมายแบน TikTok ที่ผ่านสภาผู้แทนฯ ไปแล้ว จะต้องเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาต่อไป ซึ่งมีกำหนดภายในสัปดาห์หน้า และเมื่อวุฒิสภาเห็นชอบก็จะต้องให้ประธานาธิบดีลงนามอนุมัติก่อน ถึงจะบังคับใช้เป็นกฎหมายได้
ที่ผ่านมา สหรัฐฯ กล่าวหามาตลอดว่า TikTok มีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลจีน ถึงขนาดที่ว่าเป็นเครื่องมือสอดแนมประชาชนชาวอเมริกันเลยทีเดียว แต่ TikTok และบริษัทแม่ ByteDance ปฏิเสธมาตลอด
โฆษกรายหนึ่งของ TikTok ออกมาประณามร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยระบุว่ากฎหมายที่ว่านี้นอกจากจะปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกแล้ว ยังทำลายธุรกิจมากกว่า 7 ล้านแห่ง และเป็นการปิดแพลตฟอร์มที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากกว่า 24,000 ล้านเหรียญ (ราว 883,440 ล้านบาท) ต่อปี
TikTok พยายามออกมาตรการต่าง ๆ ที่คลายความกังวลของรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องความมั่นคงมาโดยตลอด ทั้งการส่งข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐฯ ไปเก็บไว้ภายในสหรัฐฯ และการยกระดับนโยบายด้านความเป็นส่วนตัว
ปัจจุบัน ผู้ก่อตั้งชาวจีนถือหุ้น 20% ของ ByteDance ซึ่งเป็นส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุด ขณะที่อีก 60% ของผู้ถือหุ้นเป็นนักลงทุนลักษณะผู้ลงทุนสถาบัน ที่ประกอบไปด้วยบริษัทลงทุนจากหลายประเทศ รวมถึงในสหรัฐฯ ด้วย ส่วน 20% ที่เหลือเป็นของพนักงานทั่วโลก สมาชิกบอร์ดบริหารจาก 3 ใน 5 ก็เป็นชาวอเมริกัน
ราชา กฤษณามูรตี (Raja Krishnamoorthi) สส. จากพรรครีพับลิกัน ชี้ว่า TikTok มีเนื้อหาดี ๆ เยอะ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ “มันต้องไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของประเทศศัตรู”