หลังจากรอมาเกือบ 2 เดือน ในที่สุด Apple ก็ส่งหูฟังไร้สาย AirPods ราคา 160 เหรียญ (ประมาณ 5,700 บาท) ออกสู่ตลาด ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นแนวคิดด้านการเชื่อมต่อเสียงไร้สายสำหรับอนาคต
1. เชื่อมต่อได้กับทั้งอุปกรณ์ Apple และอุปกรณ์แบรนด์อื่นๆ
สิ่งหนี่งที่ AirPods ทำได้ดีมากก็คือการเชื่อมต่อที่ง่ายดาย เพียงแค่นำหูฟังออกจากเคสก็จะปรากฏหน้าจอ Pop-Up บน iPhone (หรืออุปกรณ์ iOS อื่นๆที่รัน iOS 10 เป็นอย่างน้อย) โดยจะแสดงสถานะแบตเตอรี่ของหูฟัง อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆที่ไม่ใช่ของ Apple ได้อย่างรวดเร็วง่ายดายอีกด้วย
2. ชิป Apple W1
ชิป Apple W1 ช่วยให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่านสัญญาณ Bluetooth ได้รวดเร็วและเสถียร อีกทั้งยังสะดวกสบายในการทำงาน เช่น ในกรณีที่ต้องการสลับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น สามารถสับเปลี่ยนผ่านการสั่งงานด้วยโทรศัพท์ได้ทันที
3. ใช้งาน Siri ได้
Siri คืออีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้ใช้งาน AirPods ได้อย่างสะดวกสบาย เพียงแค่เคาะที่ส่วนนอกของหูฟัง 2 ครั้ง ก็สามารถสั่งการผ่าน Siri ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple หรือ iPhone เลยก็ได้
4. ตรวจจับการใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม
AirPods มีเซ็นเซอร์อินฟาเรดที่ตรวจจับเมื่อหูฟังได้ถูกเสียบเข้าหูและพร้อมที่จะเล่นเพลง และเพลงก็จะหยุดโดยอัตโนมัติทันทีที่หูฟังถูกนำออกจากหู
5. ตรวจับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม
เมื่อเริ่มพูด หูฟังจะทำการตรวจจับเสียงของผู้ใช้ และจะดำเนินการตัดเสียงรบกวนภายนอกออกจากการสนทนา
6. แบตเตอรี่ใช้ได้นาน
หูฟัง AirPods สามารถใช้งานได้ถึง 5 ชั่วโมงจากการชาร์จ 1 ครั้ง แต่เคสของหูฟังนั้นช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้น 24 ชั่วโมง นั่นทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะชาร์จไฟเพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น ต่างจากหู Bluetooth จากหลายแบรนด์ที่ต้องชาร์จไฟวันต่อวัน ยกตัวอย่างเช่น หูฟัง Samsung Icon X ใช้ได้ประมาณ 2 จากการชาร์จ 1 ครั้ง
7. ราคา 160 เหรียญ (5,700 บาท)… แพงไปไหม ?
- ปล. Samsung Gear Icon X เปิดตัวด้วยราคา 250 เหรียญ (ประมาณ 8,900 บาท) แต่ปัจจุบันได้ลดลงมาเหลือ 160 เหรียญ (ประมาณ 5,700 บาท), Motorola VerveOnes+ มีราคา 200 เหรียญ (ประมาณ 7,100 บาท), Jabra EliteSport มีราคา 250 เหรียญ (ประมาณ 8,900 บาท) และ Bragi The Dash มีราคา 250 เหรียญ (ประมาณ 8,900 บาท)