อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า Huawei Mate60 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของ Huawei ในรอบหลายปีที่กลับมาใช้ชิป Kirin หรือชิปที่ Huawei พัฒนาขึ้นเอง แต่ต้องหยุดใช้ไปช่วงหนึ่งเนื่องจากไม่สามารถสั่งผลิตได้อีก ตามข้อกำหนดของสหรัฐอเมริกา ทำให้ต้องหันไปใช้ชิป Snapdragon แถมยังไม่รองรับ 5G อีกด้วย
การที่ Huawei เปิดตัว Mate60 ที่มาพร้อมกับชิป Kirin เรียกว่าสร้างแรงสั่นสะเทือนไปจนถึงรัฐบาลสหรัฐอเมริกาต้องรีบออกมาหาคำตอบว่า Huawei และ SMIC สามารถทำได้อย่างไร แม้ว่าจะเป็นชิประดับ 7nm ซี่งไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่ก็ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมชิปที่น่าสนใจมาก
TrendForce รายงานว่า SMIC หรือผู้ผลิตชิปรายใหญ่สุดของจีนเป็นผู้ผลิตชิป Kirin ให้กับ Huawei แต่ไม่ใช่เครื่องจักรที่ออกแบบและผลิตขึ้นในประเทศ แต่เป็นเครื่องผลิตชิปที่ทาง SMIC สั่งซื้อเอาไว้ก่อนที่สหรัฐอเมริกาจะออกมาตรการทางการค้ารอบล่าสุด ทำให้สหรัฐอเมริกาไม่สามารถทำอะไร SMIC และ Huawei ได้ เนื่องจากเป็นการสั่งซื้อก่อนข้อบังคับใหม่จะมีผลนั่นเอง
ดังนั้น ชิปของ Huawei จึงยังอยู่ที่ระดับ 7nm ทั้ง Kirin 9000S และ Kirin 9010 ที่ใช้ใน Huawei Pura70 รุ่นล่าสุด อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่า SMIC ได้พัฒนากระบวนการผลิตชิประดับ 5nm เอาไว้แล้ว
สื่อต่างประเทศรายงานว่า SMIC สามารถผลิตชิประดับ 5nm ได้สำเร็จ โดยอาศัยเครื่อง DUV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่า เนื่องจากไม่สามารถใช้เครื่อง EUV ตามข้อกำหนดของสหรัฐอเมริกา ด้วยการใช้ DUV ผลิตนั้น ทำให้เกิดปัญหาเรื่องต้นทุนที่สูงแต่ Yield หรือผลตอบแทนที่ต่ำ
TrendForce รายงานว่า กระบวนการผลิตชิป Kirin ของ SMIC มีต้นทุนที่สูงกว่า TSMC ถึง 50% แต่มีผลสำเร็จในการผลิตเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น เมื่อเทียบกับการผลิตของ TSMC ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ Huawei ต้องหันมาใช้ชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่ผลิตในประเทศมากขึ้น อย่างใน Huawei Pura70 ก็พบชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นในประเทศเยอะขึ้นด้วยเหมือนกันเมื่อเทียบกับ Huawei Mate60 เพื่อให้สามารถสู้ในตลาดสมาร์ตโฟนที่มีการแข่งขันดุเดือดได้ Huawei อาจจำเป็นต้องลดกำไรลงเพื่อให้ราคาของ Huawei Mate70 ยังสามารถแข่งขันในตลาดต่อไปได้