วันพุธที่ 5 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์ (eSafety) ของออสเตรเลียออกแถลงการณ์ว่า ได้ตัดสินใจยุติการฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลรัฐบาลกลางกับ X (Twitter) เพื่อลบวิดีโอเกี่ยวกับการแทงบาทหลวงในโบสถ์แห่งหนึ่งที่ซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ หลังจากเดือนที่ผ่านมา eSafety ได้พ่ายแพ้ถูกศาลออสเตรเลียปฏิเสธที่จะขยายคำสั่งชั่วคราว ในการให้ X บล็อกหรือปิดกั้นการแสดงวิดีโอเกี่ยวกับการแทงบาทหลวงในโบสถ์ที่ซิดนีย์

ในแถลงการณ์ของ eSafety กล่าวว่า “ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ยอมรับว่าสื่อกราฟิกประเภทนี้ไม่ควรปรากฏบนโทรทัศน์ ซึ่งเป็นคำถามที่ชัดเจนว่า เหตุใดจึงควรอนุญาตให้เผยแพร่อย่างเสรีและเข้าถึงได้ทางออนไลน์ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงแก่ทุกคน รวมถึงเด็ก ๆ” ดังนั้นหน่วยงานมีความกังวลที่เด็ก ๆ สามารถเข้าถึงวิดีโอที่มีการแทงหรือความรุนแรงบน X ได้อย่างง่ายดาย จึงได้แจ้งให้ X ลบวิดีโอดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่กระจายและกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้น

กลางเดือนเมษายน ได้เกิดเหตุเด็กชายวัย 16 ปี บุกเดี่ยวใช้มีดแทงบาทหลวง บิชอป มาร์ มารี เอ็มมานูเอล (Bishop Mar Mari Emmanuel) ในโบสถ์แห่งหนึ่งที่ซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ จากนั้นฝูงชนสามารถช่วยกันจับตัวเด็กชายเอาไว้ได้ และเขาตะโกนกล่าวหาว่าบาทหลวงดูหมิ่นศาสนาอิสลาม จนต่อมาเด็กชายได้ถูกตำรวจตั้งข้อหาก่อการร้าย ซึ่งคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกโพสต์บน X อย่างแพร่หลาย

eSafety ได้แจ้งให้ X ระงับโพสต์เหล่านี้ทั่วโลก ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับวันละ 785,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (18,549,479 บาท) ซึ่ง X อ้างว่า eSafety ไม่มีอำนาจกำหนดว่าเนื้อหาใดที่ผู้ใช้ของ X สามารถดูได้ทั่วโลก และจะต่อสู้อย่างจริงจังในศาล

ปลายเดือนเมษายน แอนโธนี อัลบานีส (Anthony Albanese) นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า อีลอน มัสก์ เจ้าของแพลตฟอร์ม X “เป็นมหาเศรษฐีผู้หยิ่งผยอง” ที่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายของออสเตรเลีย มัสก์ก็ได้สวนกลับไปว่า เขาไม่คิดว่าเขาอยู่เหนือกฎหมาย แต่นายกฯ คิดว่าตัวเองควรมีอำนาจเหนือโลกทั้งหมดหรือไม่?

ล่าสุดมัสก์ได้โพสต์บน X ว่า “เสรีภาพในการพูดคุ้มค่าที่จะต่อสู้เพื่อมัน”

อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นนี้ ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเหมือนการทดสอบความสามารถของหน่วยงานกำกับดูแลออสเตรเลีย ว่าสามารถบังคับใช้กฎหมายกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ เพื่อดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้แค่ไหน