เคียราน มาร์ติน (Ciaran Martin) อดีตผู้อำนวยการศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (NCSC) เผยว่าแฮกเกอร์รัสเซียน่าจะอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ครั้งใหญ่ที่ทำให้การให้บริการในโรงพยาบาลหลายแห่งในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรต้องหยุดชะงัก และยกเลิกการผ่าตัดในหลายเคส
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มจากการที่ Synnovis ผู้ให้บริการห้องแล็บถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ จนไปกระทบกับโรงพยาบาล 7 แห่งที่อยู่ใต้การกำกับดูแลของบริการสาธารณสุขแห่งชาติ (National Health Service)
รายงานชี้ว่าแฮกเกอร์น่าจะแอบใส่ซอฟต์แวร์เข้าไปยังระบบไอทีของ Synnovis จนใช้การไม่ได้ นอกจากนี้ แฮกเกอร์ยังขู่เอาค่าไถ่แลกกับการทำให้ระบบกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
ผลที่เกิดขึ้นก็คือ โรงพยาบาลหลายแห่งต้องระงับการให้บริการหรือย้ายไปยังโรงพยาบาลอื่นที่อยู่ในกำกับของ NHS คนไข้บางรายถึงขั้นถูกขอให้กลับบ้านไปก่อน หรือไม่ก็รอวันหลัง
ทั้งนี้ การดูแลฉุกเฉินยังทำงานได้ตามปกติ แต่ก็มีกรณีที่การปลูกถ่ายตับในทารกจำเป็นต้องถูกยกเลิกออกไปก่อน
มาร์ตินชี้ว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีเป็นกลุ่มจากรัสเซียที่มีชื่อว่า Qilin ซึ่งมีประวัติการโจมตีองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกมาเป็นเวลาถึง 2 ปี