เมื่อ Apple กำลัง “หลงทาง” ในวันที่ Steve Jobs ไม่สามารถกลับมาได้อีกแล้ว

หากใครทราบประวัติของ Apple ก็จะพอรู้ว่า ก่อนหน้านี้ Apple เคยเข้าสู่ยุคตกต่ำสุดๆ ซึ่ง Steve Jobs ได้กลับมาเป็นผู้กอบกู้บริษัท ในปี 1997, Steve Jobs เลือกตัดสินค้ากว่า 70% ของบริษัทออก เช่นปริ้นเตอร์และเซิร์ฟเวอร์รวมถึงปลดพนักงานออกราว 3,000 คนจากนั้นในเดือนมกราคมปีถัดมา Apple จึงมีกำไรเป็นครั้งแรก

Steve Jobs กลับมาที่ Apple และโฟกัสที่ผลิตภัณฑ์จำนวนไม่มาก แต่ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นออกมายอดเยี่ยมที่สุด Apple ประสบความสำเร็จในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ เช่น iPod, iPhone และ iPad ซึ่งทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และยังส่งผลให้ Apple ยังเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกอีกด้วย

หลังจาก Jobs เสียชีวิตไปในปี 2011 ด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน, Ive ผู้ที่บทบาทร่วมกับ Apple ตั้งแต่ Jobs เริ่มเข้ามากู้ Apple ก็เริ่มมีบทบาทในบริษัทน้อยลงเรื่อยๆ จนเชื่อว่า “เท้าของ Ive ข้างหนึ่งออกจาก Apple ไปแล้ว” (จริงๆ มีข่าวว่า Ive จะออกจากบริษัทหลายปีแล้ว แต่ Apple ยังขอให้อยู่ต่อ)

Apple กำลังจะเป็นเหมือนก่อน Steve Jobs จะมากอบกู้

ปัจจุบัน Apple มีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายอยู่ถึง 46 ชิ้น ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงแท็บเล็ต, นาฬิกาไปจนถึงคอมพิวเตอร์ และอื่นๆ อีกมาก แต่สิ่งที่สำคัญกว่าจำนวนที่มากคือ จำนวนปัญหาของผลิตภัณฑ์ที่มีคนบ่นนั้นสำคัญกว่า ปัจจุบันมีอุปกรณ์หลายชิ้นของ Apple ที่มีปัญหา ไม่มีรุ่นไหนที่จะไม่มีปัญหาเลย เช่น

iPhone

มีรายงานว่า iPhone 6 และ iPhone 6s หลายเครื่องเกิดปัญหาเครื่องดับเองถึงแม้ว่าจะมีแบตเตอรี่อยู่เยอะมากก็ตาม โดย Apple ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้ ถึงแม้ว่าจะมีแคมเปญให้ผู้ใช้งานนำเครื่องมาเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนจะไม่ครอบคลุมอุปกรณ์ทั้งหมดที่มีปัญหา

MacBook Pro

แบตเตอรี่ของ MacBook Pro รุ่นใหม่ไม่สามารถมีอายุการใช้งานได้เท่ากับที่ Apple โฆษณาไว้ที่ 10 ชั่วโมง แต่การใช้งานจริงนั้นสามารถใช้ได้เพียง 8 ชั่วโมงเท่านั้น (โดยเฉลี่ย) นอกจากนี้ MacBook Pro รุ่นใหม่ก็ยังไม่มีช่องเสียบ SD Card, MagSafe ซึ่งช่วยเรื่องความปลอดภัยเวลาชาร์จเป็นอย่างมาก แถมยังมีราคาที่แพงกว่ารุ่นเก่า

AirPods

Apple พลาดที่จะวางจำหน่าย AirPods ตามกำหนดการเดิมคือเดือนตุลาคม ซึ่งตัวหูฟังนั้นเพิ่งจะพร้อมจำหน่ายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมมีราคาที่แพงกว่าหูฟังมีสายกว่า $130 แถมยังมีดีไซน์ที่ไม่สวย และหายง่ายอีกด้วย

Apple Watch

Apple Watch รุ่นที่สองเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในแง่ความแตกต่างกับรุ่นแรกคือเพิ่ม GPS แต่ก็ยังมีราคาที่สูง (มาก) แถมยังมีหน้าตาที่ไม่สวยเอาซะเลย

อุปกรณ์ที่มีหน้าตาโฮมสกรีนที่แย่ที่สุดของผลิตภัณฑ์ Apple ที่ผมมี

iCloud

Steve Jobs เปิดตัว iCloud ตั้งแต่ปี 2011 จนถึงตอนนี้ iCloud ยังทำงานแค่ “พอได้” แต่ยังไม่ถึงกับดีมาก การซิ้งค์ข้อมูลระหว่างเครื่อง แต่หน้าตาและการใช้งานยัง “ชวนงงหนักมาก” และยังไม่สเถียรมากพออีกด้วย (แหล่งที่มาระบุว่าตนเสียไฟล์สำคัญๆ เยอะมากระหว่างการซิ้งค์ข้อมูล)

นี่คือตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาในการใช้งาน (เน้นๆ) บางทีปัญหาของผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะเกิดขึ้นเพราะ Apple โฟกัสไปที่ “ผลิตภัณฑ์” แห่งอนาคตมากเกินไป เช่นก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Apple จะเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะรวมถึงโปรเจครถยนต์อัจฉริยะซึ่งมีรายงานว่าแต่ละโครงการมีทีมงานอยู่โปรเจคละ 100 คนเลยทีเดียว

มองอีกด้านคือ ผลิตภัณฑ์หลายๆ อย่างของ Apple เหมือนกำลังจะถูกทิ้งไว้กลางทาง เช่น iTunes ซึ่งควรจะได้รับการพัฒนาให้ดีกว่านี้ หรือ Mac Pro ถังสีดำที่ไม่ได้รับการอัปเกรดมาสามปีกว่าแล้ว ไม่ได้ปรับเปลี่ยนแม้แต่สเปกของตัวอุปกรณ์ด้วยซ้ำ

มันเป็นไปได้ยากที่เราจะรู้ว่า Steve Jobs เลือกจะตัดสินค้าตัวไหน และมุ่งไปที่ตัวไหนมากกว่า เช่น เราไม่มีทางรู้ได้ว่า Steve Jobs หรือจะตัดพอร์ทต่างๆ และเปลี่ยน MagSafe เป็น USB-C หรือไม่ เอาจริงๆ แล้วปัจจุบัน Apple มีปัญหาและโปรเจ็คที่กำลังพัฒนาเยอะมากที่ต้องใช้เวลาและความเอาใจใส่ แต่สิ่งที่สำคัญคือการทำผลิตภัณฑ์ของปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า

อ้างอิง