OPPO ประเทศไทย เปิดตัว OPPO Reno12 Series ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยการเป็นสมาร์ตโฟนที่มีความสามารถด้าน AI ในราคาที่อยู่แค่ระดับกลางเท่านั้น เริ่มต้นที่ 11,999 บาท
ซึ่ง OPPO เลือกที่จะเปิดตัวและวางจำหน่าย OPPO Reno12 Series 5G ในประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน คือ OPPO Reno12 5G, OPPO Reno12 Pro 5G และ OPPO Reno12 F 5G โดย OPPO Reno12 Series 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่เน้นด้านการถ่ายภาพ และให้ความสามารถด้าน AI ในชื่อ ‘OPPO AI’ ด้วย ทำให้ OPPO Reno12 Series 5G ก้าวไปอีกขั้นจาก The Portrait Expert สู่ The AI Portrait Expert โดยฟีเจอร์ AI ที่มีอยู่ในเครื่องนั้นประกอบไปด้วย
- AI Eraser 2.0 หรือ ยางลบ AI 2.0 – ยางลบที่สามารถเลือกวัตถุภายในภาพ หรือวงกลมเลือกวัตถุในภาพเพื่อลบออกได้ด้วยการเจนภาพส่วนเกินเติมเข้ามาได้ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีมาตั้งแต่ใน OPPO Reno11 Series แต่ได้มีฟีเจอร์ ‘ลบบุคคล’ ที่สามารถเลือกเพื่อลบคนส่วนเกินภายในภาพได้ภายในปุ่มเดียว โดย OPPO เคลมว่าจะมีการส่งข้อมูลไปประมวลผลเฉพาะส่วนที่เราเลือกเท่านั้น
- AI Best Face – ฟีเจอร์ที่จะให้ AI แทนที่ภาพของคนที่ถ่ายออกมาแล้วหลับตา ให้กลับมาลืมตาได้เป็นปกติ โดยไม่ต้องถ่ายใหม่ เหมาะกับการถ่ายภาพที่สามารถถ่ายได้แค่ครั้งเดียว AI ก็จะแก้ภาพให้จากการเจนภาพภายในเครื่องเอง (จะเปิดให้อัปเดตโดยทั่วไปในเดือนสิงหาคมนี้)
- AI Clear Face – ฟีเจอร์ที่จะให้ AI แก้ไขภาพถ่ายกลุ่มที่อาจจะมีบางคนเกิดภาพหน้าไม่ชัด จากการที่แบบขยับหน้าพอดี หรืออยู่ไม่นิ่ง โดยจะใช้ AIGC ในการตรวจจับใบหน้าคนทั้งหมดที่อยู่ในภาพ แล้วเจนภาพแก้ไขให้หน้าชัดกว่าเดิม โดย OPPO เคลมว่า สามารถแก้ไขพร้อมกันได้มากสุด 10 คน ในครั้งเดียว
- AI Studio – แอปพลิเคชันแยก ที่เราสามารถอัปโหลดภาพถ่ายของหน้าไป แล้วให้ AI แต่งภาพไปเป็นภาพบุคคลในธีมต่าง ๆ ทั้งแบบสมจริง อย่างเช่นแต่งเป็นเจ้าบ่าว ใส่สูท ส่งไปอยู่ทะเล หรือแต่งแบบแฟนตาซี เช่นแต่งแนวไซเบอร์พังก์ แต่งธีมจอมเวทฤดูหนาว หรือแฟนตาซี หรือไปทางจีนโบราณ และอื่น ๆ ได้
- AI Toolbox – เป็นตัวช่วยในการทำงานที่อยู่ในแถบด้านข้างอัจฉริยะ ซึ่งจะทำหน้าที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์ ประกอบไปด้วย AI Writer ที่จะให้ AI เขียนในสไตล์ที่แตกต่างกัน, AI Speak และ AI Summary ที่จะให้ AI อ่านหน้าเว็บไซต์ทั้งหมดแล้วสรุปหน้าเว็บให้อ่าน หรือให้อ่านให้ฟัง
- AI Recording Summary – ให้ AI สรุป และถอดข้อความที่พูดกันในการอัดเสียง ออกมาเป็นตัวอักษรได้
โดยฟีเจอร์ AI เหล่านี้ จะอยู่ในทั้ง OPPO Reno12 5G และ OPPO Reno12 Pro 5G ครบทั้ง 2 รุ่น ส่วนใน OPPO Reno12 F 5G นั้นจะได้ฟีเจอร์ AI Eraser ที่ไม่สามารถเลือกลบบุคคลได้ แต่ฟีเจอร์อื่น ๆ ยังอยู่ครบถ้วน
OPPO Reno12 5G และ OPPO Reno12 Pro 5G
OPPO Reno12 5G และ OPPO Reno12 Pro 5G มาพร้อมดีไซน์ฝาหลังที่นำเอาดีไซน์ของ ‘Reno Iconic Design’ จาก OPPO Reno5 และ Reno6 กลับมา ด้วยการวางกล้องรูปแบบเดิม และใช้ดีไซน์ฝาหลังที่ชื่อ ‘Futuristic Fluid’ เป็นริ้วแบบคลื่นที่อยู่บนฝาหลัง โดย OPPO Reno12 5G จะวางจำหน่าย 3 สี คือสีเงิน Astro Silver, Sunset Pink และ Matte Brown
ส่วน OPPO Reno12 Pro 5G จะขาย 2 สี คือ สีเงินเหลือบม่วง Nebula Silver และสีน้ำตาล Space Brown
จุดเด่นอีกอย่างของ OPPO Reno12 5G คือหน้าจอ โค้ง 3D ไร้ขอบขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz พร้อมตัวเครื่องที่มีน้ำหนักเบา จับถือสบายมือ ส่วนรุ่น Reno12 Pro 5G นั้นจะเป็นหน้าจอแบบ Infinite View ที่จะเป็นจอไร้ขอบ และโค้งลงช่วงขอบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเป็นการผสมกันระหว่างจอโค้งและจอแบนเลย แต่ยังคงขนาด 6.7 นิ้ว และรีเฟรชเรต 120Hz เหมือนเดิมเลย
นอกจากนั้น ด้านการเชื่อมต่อ และความเสถียรของสัญญาณ ก็ยังมี AI LinkBoost เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณเครือข่ายที่ OPPO พัฒนาขึ้นเอง แก้ไขเรื่องสัญญาณไม่เสถียรเวลาอยู่ในลานจอดรถ ลิฟต์ รถไฟใต้ดิน หรือในฮอลล์คอนเสิร์ต และยังสามารถใช้ BeaconLink ที่อัปเกรดการเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ดีขึ้น 300% เพื่อจะโทรด้วยเสียงระหว่างอุปกรณ์ผ่าน Bluetooth ในระยะทางสูงสุด 200 เมตร แม้อยู่ในที่อับสัญญาณ นอกจากนี้ตัวเครื่องยังทนทานด้วยการปกป้องรอบด้านด้วยกรอบโลหะผสมทนทานสูงและฟองน้ำไบโอนิคกันกระแทก และยังผ่านมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP65 และ Splash Touch ที่ทำให้สัมผัสหน้าจอได้แม้หน้าจอเปียก
โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับชิปเซต MediaTek Dimensity 7300 ทั้งคู่ โดย OPPO Reno12 5G มีความจุให้เลือก 2 ขนาด RAM 12GB+ROM 256GB และรุ่น RAM 12GB+ROM 512GB ส่วน OPPO Reno12 Pro 5G มาพร้อมกับแรมขนาด 12GB และ ROM ขนาด 512GB รวมไปถึงแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh ที่มาพร้อมระบบชาร์จไว 80W SUPERVOOC ที่ OPPO เคลมว่าสามารถชาร์จจาก 1% ถึง 100% ได้ภายใน 46 นาที
สเปกของ OPPO Reno12 5G
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz แบบโค้ง 3D ความละเอียด 2412 × 1080 (FHD+) สว่างสูงสุด 600 nits (HBM), 1,200 nits (Peak) ครอบทับด้วยกระจก Corning® Gorilla® Glass 7i
- ชิปเซต MediaTek Dimensity 7300-Energy (4nm) รองรับ 5G
- การ์ดจอ Mali-G615
- หน่วยความจำขนาด 256GB หรือ 512GB UFS 2.2
- RAM : 12GB LPDDR4X
- กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.8) เซนเซอร์ Sony LYTIA LYT600
- กล้องเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2) 112 องศา เซนเซอร์ Sony IMX355
- กล้องมาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.0) เซนเซอร์ OmniVision OV02B10
- กล้องหน้าขนาด 32 ล้านพิกเซล (f/2.0) เซนเซอร์ GC32E
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh พร้อมชาร์จไว 80W SUPERVOOC
- ซอฟต์แวร์ ColorOS 14.1 (Based on Android 14)
- การเชื่อมต่อ : รองรับ 5G ,WIFI 6 , Bluetooth 5.4, USB-C 2.0
- ผ่านมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น IP65
- น้ำหนัก 177 กรัม
- มีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเงิน Astro Silver, สีชมพู Sunset Pink และสีน้ำตาล Matte Brown
สเปกของ OPPO Reno12 Pro 5G
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz แบบแบน ไร้ขอบ ความละเอียด 2412 × 1080 (FHD+) สว่างสูงสุด 600 nits (HBM), 1,200 nits (Peak) ครอบทับด้วยกระจก Corning® Gorilla® Glass Victus® 2
- ชิปเซต MediaTek Dimensity 7300-Energy (4nm) รองรับ 5G
- การ์ดจอ Mali-G615
- หน่วยความจำขนาด 512GB UFS 2.2
- RAM : 12GB LPDDR4X
- กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.8) เซนเซอร์ Sony LYTIA LYT600
- กล้องเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2) 112 องศา เซนเซอร์ Sony IMX355
- กล้องถ่ายภาพซูม (Telephoto) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/2.0) เซนเซอร์ S5KJN5
- กล้องหน้าขนาด 50 ล้านพิกเซล (f/2.0) เซนเซอร์ S5KJN5
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh พร้อมชาร์จไว 80W SUPERVOOC
- ซอฟต์แวร์ ColorOS 14.1 (Based on Android 14)
- การเชื่อมต่อ : รองรับ 5G ,WIFI 6 , Bluetooth 5.4, USB-C 2.0
- ผ่านมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น IP65
- น้ำหนัก สี Nebula Silver 181 กรัม, สี Space Brown 180 กรัม
- มีสีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงินเหลือบม่วง Nebula Silver และสีน้ำตาล Space Brown
ทั้งนี้ เราได้มีรีวิวของ OPPO Reno12 5G และ OPPO Reno12 Pro 5G ไว้ให้ทุกคนอ่านแล้ว
OPPO Reno12 F 5G
ส่วน OPPO Reno12 F 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่เป็นรุ่นเล็กสุดของตระกูล ซึ่งยังคงมีฟีเจอร์ด้าน AI Portrait ที่เกือบครบถ้วน โดยฟีเจอร์ยางลบ AI 2.0 รีทัชที่ลบคนและวัตถุได้พร้อมกันในคลิกเดียว ขาดเพียงแค่ฟีเจอร์ลบบุคคลในภาพเท่านั้น แต่ฟีเจอร์ด้าน AI อื่น ๆ ยังมีครบ โดยเฟรมเครื่องยังมีการปกป้องรอบด้านด้วยกรอบโลหะผสม และฟองน้ำไบโอนิคกันกระแทก ช่วยป้องกันความเสียหายจากการตกกระแทกได้ และยังกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP64 และรองรับฟีเจอร์ Splash Touch ให้ใช้งานได้แม้หน้าจอเปียก
โดยตัวเครื่องมาพร้อมชิปเซต MediaTek Dimensity 6300, RAM ขนาด 12GB และ ROM ขนาด 256GB, มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh และระบบชาร์จไว 45W SUPERVOOC รวมถึงยังรองรับเทคโนโลยี AI LinkBoost และ BeaconLink เหมือนเดิมเลย
ส่วนด้านดีไซน์ ก็ได้มีฟีเจอร์ Halo Light ที่เป็นวงแหวนไฟกะพริบเมื่อมีการแจ้งเตือนระหว่างชาร์จแบตเตอรี่ มีสายเรียกเข้า หรือกำลังเล่นเพลงจาก Music Party ที่สามารถเปลี่ยนสีไฟตามทำนองเพลง โดยวางขายในไทย 2 สี คือสีส้ม Amber Orange และสีเขียว Olive Green
OPPO Enco Air4 Pro
OPPO Enco Air4 Pro เป็นหูฟังไร้สาย TWS รุ่นใหม่ที่ OPPO นำมาวางจำหน่ายในประเทศไทย โดยเป็นหูฟังที่มาพร้อมกับไดร์เวอร์ขนาด 12.4 มิลลิเมตร, รองรับ Active Noise Cancellation แบบความถี่กว้างพิเศษ, รองรับการเล่นเสียงแบบ Hi-Res ด้วย Codec LHDC 5.0 และ Bluetooth 5.4 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ OPPO เคลมว่าสามารถใช้ได้นานสุดที่ 44 ชั่วโมง และผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ IP55 อีกด้วย
ราคาและการวางจำหน่ายในประเทศไทย
OPPO Reno12 และ OPPO Reno12 Pro 5G เปิดราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยอยู่หลายความจุ โดย
- OPPO Reno12 5G ความจุ 12GB / 256GB เปิดราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 14,999 บาท
- OPPO Reno12 5G ความจุ 12GB / 512GB เปิดราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 16,999 บาท
- OPPO Reno12 Pro 5G ความจุ 12GB / 512GB เปิดราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 19,999 บาท
โดยใครที่ซื้อเครื่องตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2567 นี้ จะได้รับของแถมมูลค่าสูงสุด 10,999 บาท เป็น
- OPPO E-VIP Card สิทธิการประกันจอเเตก จํานวน 1 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี
- การประกันจอเเตก รุ่น OPPO Reno12 Pro (CPH2629) มูลค่า 8,000 บาท
- การประกันจอเเตก รุ่น OPPO Reno12 (CPH2625) มูลค่า 6,500 บาท
- OPPO AI Gift Box มูลค่า 2,999 บาท ประกอบด้วย ลําโพงบลูทูท, กระเป๋าผ้า, แก้วนํ้าเปลี่ยนสี (เมื่อใส่นํ้าเย็น หรือ นํ้าเเข็ง)
ของสมนาคุณมีจํานวนจํากัด เฉพาะร้านค้าที่รวมรายการ
ส่วน OPPO Reno12 F 5G จะวางจำหน่ายในวันที่ 18 กรกฎาคม โดยวางจำหน่ายที่ราคา 11,999 บาท และหูฟัง OPPO Enco Air4 Pro วางจำหน่ายในประเทศไทยในราคา 2,999 บาท ซึ่งมีโปรโมชันลดราคาเพิ่ม 1,000 บาท เมื่อซื่อคู่กับโทรศัพท์ OPPO หรือ OPPO Pad Series อีกด้วย
โดยสามารถจองเครื่องได้ผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่าย OPPO ทั่วประเทศ, OPPO Brand Shop ผู้ให้บริการเครือข่าย และ Online Official Store ของ OPPO ทั้ง Shopee และ Lazada ได้เลย