หลังจากที่เปิดตัวหูฟังรุ่นแรกอย่าง Dyson Zone ซึ่งมาพร้อมจุดเด่นคือมีหน้ากากฟอกอากาศเพื่อให้ผู้ใส่หูฟังได้อากาศบริสุทธิ์ไปพร้อมกับการฟังเพลงกันไป ไดสันก็ออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มหูฟังตัวใหม่คือ Dyson OnTrac ที่เป็นหูฟังเพียว ๆ ไม่ต้องฟอกอากาศแล้วออกมา แถมมีจุดเด่นเรื่องดีไซน์ที่สามารถ Mix and Match สีสันได้สารพัดแบบ
การออกแบบของ Dyson OnTrac
ตัวโครงสร้างของ Dyson OnTrac นั้นถอดแบบมาจาก Dyson Zone คือที่คาดศีรษะนั้นแบ่งออกเป็น 3 ชิ้น (ในก้อนซ้าย-ขวาของที่คาดศีรษะนี้มีแบตเตอรี่อยู่) ซึ่งไม่ค่อยมีหูฟังไหนดีไซน์ที่คาดศีรษะแบบนี้ แล้วส่วนที่ยึดกับไดรเวอร์ทั้ง 2 ข้างจะมีจุดหมุน 2 ตัวแบบกิมบอลเพื่อให้ยืดหยุ่นรับกับใบหูของแต่ละคน ซึ่งจุดนี้ก็เหมือน Zone
แต่ดีไซน์ที่แตกต่างกันคือตัวไดรเวอร์ทั้ง 2 ข้างของ OnTrac นั้นบางกว่า Zone มาก เพราะไม่ต้องติดตั้งมอเตอร์ดูดอากาศและฟิลเตอร์กรองอากาศเข้าไปจนหนาเทอะทะ ทำให้ OnTrac ดูเป็นหูฟังที่ดีไซน์น่าใช้กว่า
สีพื้นฐานของหูฟังรุ่นนี้มีให้เลือกซื้อ 4 สี ซึ่งมีวัสดุกรอบนอก 2 แบบคืออะลูมิเนียมและเซรามิก และสามารถซื้อกรอบหูฟังภายนอก 7 สี และตัวแป้นหูฟังที่เป็นเมมโมรีโฟมอีก 7 สีมาเปลี่ยนได้ ซึ่งไดสันบอกว่าตอนนี้สามารถมิกซ์รูปแบบกันได้มากกว่า 2,000 แบบ ทำให้ OnTrac เป็นหูฟังที่ผู้ซื้อแต่งสีด้วยตัวเองได้มากที่สุดตัวหนึ่งในโลก
สเปกเสียง
Dyson OnTrac ใช้ไดรเวอร์ขนาด 40 mm 2 ข้าง ตอบสนองเสียงตั้งแต่ 6 – 21,000 Hz ซึ่งเป็นสเปกเดียวกับ Dyson Zone แล้วใช้ไมโครโฟนตัดเสียงภายนอก 8 ตัว ตรวจสอบเสียงรอบข้าง 384,000 ครั้งต่อวินาที ทำให้ลดเสียงรบกวนได้ 40 dB (ของ Zone เคลมไว้ 38 dB) พร้อมรองรับ Codec ของบลูทูธเป็น SBC, AAC และ LHDC
แบตเตอรี่ของ OnTrac สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน 55 ชั่วโมง ส่วนการควบคุมใช้การแตะที่ตัวหูฟัง และมีปุ่มควบคุมที่โยกไปมาได้เพื่อสั่งงาน คล้าย ๆ กับที่อยู่ใน Dyson Zone
ราคา
Dyson OnTrac ตั้งราคาไว้ $499 หรือราว 18,000 บาท ซึ่งถูกกว่า Dyson Zone ที่ตั้งไว้ $699 (ราคาไทยตั้งไว้ 28,900 บาท) อยู่พอสมควร ส่วนอุปกรณ์เสริมที่เปลี่ยนสีต่าง ๆ ตั้งราคาไว้ $49 หรือราว 1,800 บาท ซึ่งตอนนี้ Dyson OnTrac ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายในไทยครับ แต่เมืองไทยมี Zone ขายแล้ว OnTrac ก็ต้องขายในเมืองไทยได้สิ