ใครจะไปคิดว่าความผิดพลาดในตัวอัปเดตตัวเดียวของซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสจะทำให้เกิดจอฟ้ากันเป็นวงกว้าง เที่ยวบินจำนวนมากต้องหยุดขึ้นบินหลายชั่วโมง ธนาคารต้องปิดรับลูกค้า ร้านค้าต้องปิดทำการ สถานีโทรทัศน์เจ้าดังจำนวนมากไม่สามารถออกอากาศได้

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ จนถึงตอนนี้ ผ่านไปแล้ว 2 วัน การประเมินค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นก็คงยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนไม่รู้ว่าจะไปสุดที่ตรงไหน

อุปกรณ์ราว 8.5 ล้านเครื่องได้รับผลกระทบ

Microsoft ประเมินว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบกับอุปกรณ์ Windows มากกว่า 8.5 ล้านอุปกรณ์ทั่วโลก ซึ่งน้อยกว่า 1% ของอุปกรณ์ที่ใช้ Windows ทั้งหมด

ตัวเลขนี้แม้จะดูเหมือนไม่มากหากเทียบกับผู้ใช้ Windows (ทั้งแท้และไม่แท้) มากกว่า 1,000 ล้านอุปกรณ์ทั่วโลก แต่มันดันไปเกิดกับองค์กรขนาดใหญ่ที่ให้บริการระบบขนส่งอย่างสายการบิน สถาบันทางการเงิน และหน่วยงานของรัฐที่ให้บริการประชาชน

ยังไม่ฟื้นตัวดี

หลายองค์กรสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่อีกหลายองค์กรไม่ได้โชคดีเช่นนั้น มีการประเมินว่าบางธุรกิจอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าที่จะกลับมาให้บริการได้ตามปกติ

จอร์จ เคิร์ตซ์ (George Kurtz) บอกกับสำนักข่าว NBC ว่าในบางระบบอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการกลับมาฟื้นตัว เพราะไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างอัตโนมัติ

Delta Air Lines หนึ่งในสายการบินที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้

สายการบิน Delta Air Lines เผยว่ายังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับ Ryan Air ของยุโรป และ United Airlines ของสหรัฐอเมริกาที่ก็กำลังค่อย ๆ ทยอยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นกัน

ตัวแก้มาเร็ว ๆ นี้?

แคลร์ โอนีล (Clare O’Neil) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในของออสเตรเลียเผยว่าได้รับแจ้งจากทาง CrowdStrike ว่าใกล้จะปล่อยตัวแก้แบบอัตโนมัติได้แล้ว ซึ่งตัวแก้นี้จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบและฝ่ายไอทีทั่วโลกไม่ต้องคอยมานั่งแก้ไปทีละอุปกรณ์อีกต่อไป และจะทำให้การแก้ปัญหาทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ได้วันหยุดคืนมา

ซึ่งไมโครซอฟท์ก็ปล่อยตัวแก้ไขมาช่วยฝ่าย IT ให้แก้ไขได้เร็วขึ้น ออกมาแล้ว