บรรดาผู้ถือหุ้นยื่นฟ้อง Intel แบบกลุ่ม ต่อศาลกลางในซานฟรานซิสโก กล่าวหาว่าบริษัทปกปิดปัญหาที่นำไปสู่ผลประกอบการรายสัปดาห์ที่ไม่สู้ดีนัก รวมถึงการปลดพนักงาน การระงับการจ่ายเงินปันผล และทำให้มูลค่าตลาดลดฮวบไปถึง 32,000 ล้านเหรียญ (ราว 1.1 ล้านล้านบาท) ในวันเดียว
คำฟ้องนี้ยื่นฟ้องต่อตัวบริษัท รวมถึง แพตทริก เกลซิงเจอร์ (Patrick Gelsinger) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเดวิด ซินสเนอร์ (David Zinsner) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินในฐานะจำเลยด้วย
โจทก์ระบุว่ารู้สึกตกใจในตอนที่ Intel เปิดเผยเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมว่าธุรกิจโรงงานรับจ้างผลิตชิปของบริษัทกำลังตกที่นั่งลำบาก สูญเงินไปมหาศาล และรายรับก็ถดถอยเรื่อย ๆ อีกทั้งยังบอกด้วยว่าคำชี้แจงอันเป็นเท็จและชวนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับศักยภาพของธุรกิจดังกล่าวยังทำให้มูลค่าหุ้นพุ่งสูงขึ้นอย่างผิดปกติในช่วงระหว่าง 25 มกราคม – 1 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นของ Intel ลดฮวบลงไปกว่า 26% หลังจากที่ได้ประกาศผลประกอบการรอบไตรมาส การปลดพนักงาน และการระงับจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น จนถึงตอนนี้หุ้นก็ยังร่วงไปแล้ว 34.6%
ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงที่ผ่านมา ทางสำนักข่าว Reuters ยังบอกด้วยว่า Intel ยังประสบปัญหาในการแข่งขันในตลาด AI กับคู่แข่งในตลาดพัฒนาชิปอย่างทุลักทุเลด้วย