คุณรู้ความเร็ว 5G กันดีใช่ไหม? หลายคนก็ใช้กันอยู่ทุกวัน เราก็คิดว่าเราไม่ต้องการอะไรที่เร็วกว่า 5G แล้วแหละ ตอนนี้กดเน็ตปุ๊บเนื้อหาก็มาปั๊บแล้ว แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว BT ไปงาน Asia-Pacific ICT Summit 2024 ที่กรุงเทพฯ ได้เห็น 5.5G เครือข่ายยุคต่อไปที่เร็วกว่า 5G ถึง 10 เท่า รองรับอุปกรณ์ต่อพร้อมกันระดับแสนล้านเครื่อง ที่หัวเว่ยเป็นโต้โผใหญ่ของเทคโนโลยีนี้อยู่ มันเกินความคาดหวังไปเลย การประชุมสุดยอด Asia-Pacific ICT Summit 2024 งานที่รวมเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ล้ำ ๆ ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมาให้เราดูกัน
งานนี้เขาจัดใหญ่เลย เพราะได้แม่งานอย่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DE ไปดึงบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม GSMA ที่ให้บริการเกี่ยวกับโครงข่ายมือถือมาโชว์ของ และไปดึง Huawei ที่เป็นตัวตั้งตัวตีเรื่อง 5.5G มาตั้งแต่ต้น ๆ และเพิ่งประกาศการใช้งานเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงมิถุนายน ในงาน MWC Shanghai 2024 ที่ผ่านมา
เนื้อหาในงานก็จะมีวิวัฒนาการของ 5.5G และกรณีศึกษาความสำเร็จ หรือ Use-Case นวัตกรรมล่าสุดจาก Huawei Cloud และนวัตกรรม AI สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ การเอา 5.5G มาใช้กับการโทรรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า 5G New Calling ที่วิดีโอคอลกันแบบ 4K และการแปลภาษาเป็นข้อความแบบ Real-time ภาษามือก็แปลได้นะ หรือถ้าจะใช้ Avatar ที่สร้างขึ้นมาพูดแทนเราก็ได้ ซึ่งการขยับท่าทางก็จะเป็นแบบ Real-time เช่นกัน
หรือแม้แต่การเอา 5.5G มาใช้ร่วมกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ กลายเป็น Robotaxi ที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง และถ้าเกิดปัญหาก็จะมีคนเข้าไปควบคุมแทน เหมือนกับเครื่องบินจำเป็นต้องมีกัปตัน แต่อันนี้กัปตัน 1 คน ดูแลรถ 5 คัน
นอกจากนี้ ในส่วนของการใช้งานกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็ช่วยเพิ่ม Productivity ให้ด้วย เช่น การเอา 5.5G ไปใช้กับโรงงาน อันนี้ก็จะทำให้การทำงาน หรือการส่งข้อมูลแม่นยำมากขึ้น ยกตัวอย่าง โรงงาน Midea ที่ผมเคยพาไปบุก ก็อยู่ใน Use Case ที่เขาเอามาโชว์ด้วย รวมถึงเหมืองที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ อันนี้ก็เกิดขึ้นได้
เห็นภาพเลยว่าอนาคตถ้าเราก้าวไปสู่ยุค 5.5G แล้วเนี่ย พวกนวัตกรรมใหม่ ๆ แบบนี้ ก็จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เหมือนตอนที่ 3G เปลี่ยนมาเป็น 4G แล้วมีการวิดีโอคอล หรือการดูคอนเทนต์ผ่านมือถือที่ความละเอียดสูงขึ้น และ 5G ที่ทำให้เกิดยุคของ Smart Factory ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นเรื่องที่น่าคิดนะว่า ถ้า 5.5G ถูกเอาเข้ามาใช้จริง ๆ จัง ๆ ในไทย ประเทศเราจะเปลี่ยนไปแค่ไหน
อีกช่วงที่คิดว่าดีคือ Keynote เรื่อง 5.5G Business Summit จาก Abel Deng President of Carrier Sales Business Asia Pacific Region, Huawei ขึ้นมาพูดถึงความสำคัญของการมาของ 5.5G ที่จะปลดล็อกศักยภาพ และความเป็นไปได้แบบไม่มีที่สิ้นสุดให้กับหลาย ๆ อุตสาหกรรม ซึ่งที่เราเห็นกันในบูทคือจุดเริ่มต้น
ทีนี้ก็อยากรู้เหมือนกันว่า การมาของ 5.5G มันจะทำให้แต่ละประเทศดีขึ้นยังไง ก็ได้คำตอบว่าหลังจากที่ 5G มาก็ทำให้ GDP ของแต่ละประเทศในเอเชีย โตขึ้นราว 1-1.8% และยังทำให้กำลังการผลิตสูงขึ้น 20% กว่าอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม การมาของ 5.5G ก็น่าจะเป็นเช่นเดียวกัน
ส่วนอีก Session หนึ่งที่ทำให้เข้าใจเรื่อง 5.5G มากขึ้นคือ John Gao President of 5.5G Wireless Network, Huawei ที่อธิบายว่า 5.5G เร็วกว่าเดิม 10 เท่า ทั้ง Download ที่ไปถึง 10Gbps และดาวน์โหลดระดับ 1Gbps กับค่าความหน่วงแผงที่อาจจะต่ำได้ถึง 1ms รวมถึงจำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อที่จะรองรับถึง 1 แสนล้านเครื่อง ซึ่งทั้งหมดจะช่วยส่งเสริมเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Glass Free 3D, XR, AI-Generative ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ออกมา
คิดว่าการมาของ 5.5G นี้ จะเป็นคลื่นลูกแรกที่จะนำพาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย ที่ BT พาไปดูเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น
ส่วนไทยจะพร้อมกับการมาของ 5.5G ไหม เราพร้อมนะ โครงสร้างพื้นฐานเราก็มีอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราอยากจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำก็จำเป็นที่จะต้องออกวิ่งก่อนคนอื่น ๆ ภาครัฐควรรีบวางโครงสร้างรากฐานให้พร้อม เตรียมรอรับการลงทุนลูกใหม่ ถ้าโครงสร้างเราพร้อม โอกาสดึงดูดเงินลงทุนเข้าประเทศก็มีโอกาสมากกว่า