vivo ประเทศไทย เปิดตัว vivo V40 Series 5G อย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมจุดเด่นด้านการถ่ายภาพบุคคลด้วยการร่วมมือกับ ZEISS ในการทำฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของกล้อง ที่คราวนี้ให้มาอย่างทั่วถึง ทั้ง vivo V40 5G และ vivo V40 Pro 5G เลย
โดยใน vivo V40 Series นี้ vivo ได้ชูจุดเด่นด้านการเป็น vivo ZEISS Co-engineered คือมีกล้องที่ได้ร่วมพัฒนากับ ZEISS ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทั้ง 2 รุ่น ซึ่งมีกล้องทุกกล้องความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่ได้มาตรฐาน ZEISS Optics Standards ทั้งหมดทุกเลนส์ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง กับฟีเจอร์การถ่ายภาพบุคคลที่ทำให้ถ่ายออกมาเหมือนมืออาชีพ แต่อยู่ในรูปแบบของสมาร์ตโฟนระดับกลางอยู่
กล้องถ่ายภาพ ZEISS All Main Camera
vivo ได้เปิดตัว V40 Series 5G ที่มาพร้อมกับเลนส์กล้องมาตรฐาน ZEISS Optics ความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซลในทุกกล้อง ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง กับเซนเซอร์กล้องถ่ายภาพของ Samsung ISOCELL และ Sony IMX921 ใน vivo V40 Pro, เทคโนโลยี Aura Light Portrait ที่สว่างขึ้นแม้จะขนาดเล็กลง และฟีเจอร์จาก vivo ZEISS Co-engineered ในทั้ง 2 รุ่น อีกด้วย
โดยฟีเจอร์สำหรับการถ่ายภาพบุคคลของ vivo ZEISS Co-Engineered นั้นประกอบไปด้วย ZEISS Multifocal Portrait (ครั้งแรกบน V Series) ให้เลือกระยะโฟกัสได้หลากหลาย ตั้งแต่ 24 มม. 35 มม. 50 มม. ไปจนถึง 85 มม. และ 100 มม. (เฉพาะบน V40 Pro 5G) รวมไปถึง ZEISS Style Bokeh ที่เลือกสไตล์โบเก้ด้านหลังของภาพถ่ายได้หลากหลายแบบ โดยมีโบเก้ B-Speed ที่เคยมีมาใน vivo X100 Series ก็ได้นำมาใส่ใน vivo V40 ทั้ง 2 รุ่นอีกด้วย
สเปกภายในเครื่องของ vivo V40 Series 5G
vivo V40 มาพร้อมชิปเซต Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 และ V40 Pro 5G มาพร้อมชิปเซต MediaTek Dimensity 9200+ โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับแรมขนาด 12GB และหน่วยความจำที่ 256GB, 512GB ในรุ่น V40 และมีความจุ 512GB เท่านั้นในรุ่น V40 Pro โดยทั้งสองรุ่นยังใช้หน้าจอโค้ง 3D Curved Screen แบบ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K Refresh Rate 120Hz อีกด้วย
นอกจากนั้นยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5500mAh ที่ใช้เทคโนโลยี BlueVolt ทำให้แบตเตอรี่มีขนาดเล็กลงอีก 16.5% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ทั่วไปที่มีความจุเท่ากัน พร้อมกับระบบชาร์จไว 80W FlashCharge นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกของ V Series ที่มาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 สามารถทนน้ำลึก 1.5 เมตร ได้นานสูงสุดถึง 30 นาทีอีกด้วย
ดีไซน์แบบใหม่ พร้อมโมดูลกล้อง Gemini Ring
vivo V40 Series 5G มาพร้อมกับดีไซน์ที่เน้นความโฉบเฉี่ยว และบาง ตามสไตล์ของสมาร์ตโฟน V Series ด้วยขอบตัวเครื่องบาง 7.58 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 190 กรัม พร้อมกับดีไซน์โมดูลกล้องรูปแบบใหม่ ‘Gemini Ring’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสมมาตรของกลุ่มดาวราศีเมถุน กับรูปทรงโค้งมนที่ล้อไปกับหน้าจอโค้งด้วย โดยในไทย vivo V40 5G นั้นจะวางจำหน่ายอยู่ 3 สีด้วยกัน ประกอบด้วย
- ‘สีเงินสเตลลาร์ (Stellar Silver)’ สีเงินขัดด้านแบบคลาสสิก กับวัสดุกระจก Fluorite AG ที่ออกมาดูหรูหราขึ้น
- ‘สีม่วงเนบิวลา (Nebula Purple)’ ได้แรงบันดาลใจจากสีของท้องฟ้าเวลากลางคืนที่มีหมอกดาว
- ‘สีพีชซันโกลว์ (Sunglow Peach)’ สีออกไปทางพีช ที่คล้ายกับแสงแรกของดวงอาทิตย์ในยามเช้า
โดยรุ่น V40 Pro 5G จะวางจำหน่ายเพียงสีเงินสเตลลาร์ (Stellar Silver) เท่านั้น
ตัวอย่างภาพเครื่องจริงของ vivo V40 Series 5G
BT beartai เรามีรีวิว vivo V40 5G แบบแอบแถม vivo V40 Pro 5G ด้วยนะ ตามไปดูกันได้เลย
vivo V40 5G
vivo V40 Pro 5G
ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย
vivo V40 Series 5G วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดย V40 5G วางจำหน่ายใน 2 รุ่นความจุ ได้แก่ 12GB + 256GB ในราคา 15,999 บาท และ 12GB + 512GB ในราคา 17,999 บาท ในขณะที่ V40 Pro 5G วางจำหน่ายในรุ่นความจุ 12GB + 512GB ในราคา 24,999 บาท โดยใครที่สั่งซื้อภายในวันที่ 2 กันยายน – 30 กันยายน 2567 จะได้รับของแถมมูลค่ารวมสูงสุด 12,298 บาท ประกอบด้วย
- หูฟัง vivo TWS 3e (มูลค่า 1,799 บาท เฉพาะผู้ที่ซื้อรุ่น V40 Pro 5G)
- V40 Series 5G Premium Gift Box (มูลค่ารวม 10,499 บาท) ภายในประกอบด้วย เคสใส 1 ชิ้น ตัวยึดกับเคสสีพีช 1 ชิ้น สายคล้องข้อมือแบบเชือกสีดำ 1 ชิ้น กระเป๋าใส่เหรียญสีดำ 1 ใบ และ E-VIP รับประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง ภายใน 2 ปีแรก
และใครที่เข้าไปซื้อเครื่องแบบ Walk-In ภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 1 กันยายน 2567 ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา รับเพิ่มทันทีหูฟัง vivo TWS 3e สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ V40 5G และส่วนลด 500 บาท สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ V40 Pro 5G ด้วย