Infinix เปิดตัวสมาร์ตโฟนใหม่ Zero 40 ซีรีส์ออกมา 2 รุ่น ได้แก่ Infinix Zero 40 4G และ Infinix Zero 40 5G ทั้งคู่มีสเปกหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกัน หลัก ๆ จะต่างกันที่รายละเอียดยิบย่อยและการรองรับ 5G
Infinix Zero 40 4G / Zero 40 5G มีหน้าจอขนาด 6.74 นิ้ว ขอบโค้งความละเอียด Full HD+ ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1,300 nits ครอบด้วย Gorilla Glass 5 ตัว 4G รีเฟรชเรตหน้าจอ 120Hz ส่วนรุ่น 5G รีเฟรชเรตหน้าจอ 144Hz ทั้งคู่มีกล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และมีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
กล้องหลังตัวหลักใช้เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HM6 ความละเอียด 108 ล้านพิกเซลเท่ากัน รองรับกันสั่น OIS พร้อมกล้อง Ultrawide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ข้อแตกต่างคือตัว 5G รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 60fps ส่วนรุ่น 4G รองรับ 2k 30fps
อีกหนึ่งฟีเจอร์ด้านกล้องที่น่าสนใจคือ Infinix Zero 40 ซีรีส์ได้เพิ่ม GoPro Mode เข้ามา ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้สมาร์ตโฟนเป็นจอเสริมและใช้เป็นตัวควบคุมกล้อง เช่น ถ่ายภาพได้ด้วย โดยแอปฯ GoPro Quik จะถูกติดตั้งมาจากโรงงานเลย
จุดแตกต่างสำคัญอีกอย่างคือชิปประมวลผล โดย Infinix Zero 40 5G ใช้ชิป MediaTek Dimensity 8200 แรม 12GB ความจุ 256/512GB ส่วน Infinix Zero 40 4G ใช้ชิป MediaTek Helio G100 แรม 8GB ความจุ 256/512GB
ทั้ง 2 รุ่นมีแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh เท่ากัน รองรับชาร์จไว 45W เท่ากัน แต่รุ่น 5G จะรองรับชาร์จไร้สาย 20W และชาร์จให้อุปกรณ์อื่น 10W ด้วย ส่วนระบบปฏิบัติการมาพร้อมกับ XOS 14.5 พัฒนาบนพื้นฐานของ Android 14 พร้อมการันตีอัปเดต Android ทั้งหมด 2 เวอร์ชัน และมีอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยหรือ Security Update ให้ทั้งหมด 3 ปี
Infinix Zero 40 4G เคาะราคาเริ่มต้น 1,200 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 9,500 บาท ส่วน Infinix Zero 40 5G มีราคาเริ่มต้น 1,699 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 13,400 บาท เริ่มวางจำหน่ายในมาเลเซีย 8 กันยายนนี้