หลายคนอาจเคยสงสัยว่าทำไมหลังจากที่เรานั่งพูดคุยกับเพื่อนหรือบุคคลใกล้ตัว จากนั้นเมื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาท่องเว็บหรือโซเชียลมีเดียก็จะมีโฆษณาแสดงสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เราพูดคุยกัน จนทำให้มีความคิดว่าเครื่องมือโฆษณาอาจแอบฟังการสนทนาของเราหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการกล่าวถึงและถกกันบนโลกออนไลน์มานานแล้ว และล่าสุดความจริงในเรื่องนี้ก็ได้ถูกเปิดเผย เมื่อ CMG เจ้าของเครื่องมือโฆษณายอมรับว่า สามารถฟังเสียงจากไมโครโฟนบนอุปกรณ์ใกล้ตัวของผู้ใช้มากำหนดเป้าหมายโฆษณาได้
ความจริงในเรื่องนี้มาจาก 404 Media บริษัทสื่อดิจิทัลที่รายงานการสืบสวนเกี่ยวกับประเด็นร้อนทางไซเบอร์ เปิดเผยว่ากลุ่มบริษัทสื่อ Cox Media Group (CMG) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ Google, Facebook, Amazon และ Bing ได้ใช้เครื่องมือโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายแบบใหม่ โดยใช้เสียงที่ถูกบันทึกรวบรวมมาจากอุปกรณ์สมาร์ตโฮม ซึ่งยอมรับว่าโฆษณาที่แสดงสามารถถูกกำหนดเป้าหมายด้วยเสียงที่พูดออกมาใกล้กับไมโครโฟนของอุปกรณ์ในระดับเสียงที่ดังฟังชัด
เดือนพฤศจิกายน 2023 CMG ได้ดึงความสนใจ Google, Facebook และบริษัทอื่น ๆ ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่ใช้ในการติดตามและการฟังเสียงอย่างตั้งใจ โดยใช้เอไอเข้ามาช่วยในการรวบรวมข้อมูล ซึ่งเรียกว่า ข้อมูลเสียง ที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคออนไลน์
CMG เปิดเผยอย่างชัดเจนว่าโทรศัพท์มือถือที่พวกเราใช้อยู่นั้นกำลังฟังเรา ซึ่งธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ในการกำหนดเป้าหมายโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเมื่อเราพูดคุยถึงเรื่องราวต่าง ๆ อุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้านที่อยู่ใกล้ก็จะฟังเสียงและเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถทราบความต้องการของเรา แล้วกำหนดเป้าหมายโฆษณาได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น และจ่ายเงินค่าโฆษณาน้อยลง
หลังจากที่รายงานฉบับนี้เผยแพร่ออกมา Google ก็ได้ถอด CMG ออกจากการเป็นพันธมิตร ส่วน Meta, Amazon และ Microsoft บอกปัดกับทาง 404 Media ว่าพวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครื่องมือรวบรวมข้อมูลเสียงดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม CMG ไม่ได้เปิดเผยว่าข้อมูลเสียงถูกรวบรวมมาจากลำโพงอัจฉริยะ สมาร์ตทีวีแบรนด์ใด หรือสมาร์ตโฟนที่ใช้แอปฯ ใดอย่างเจาะจง แต่เท่าที่ทราบสมาร์ตโฟนส่วนใหญ่จะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบก่อนทุกครั้งเมื่อมีการเข้าถึงไมโครโฟน เช่น แอนดรอยด์จะโชว์ไฟสีเขียวที่มุมขวาบน ส่วน iPhone จะโชว์ไฟสีส้ม