หลังจากที่ iPhone 16 กลายเป็นพระเอกในงาน “It’s Glowtime” ของ Apple เมื่อหลายคืนที่ผ่านมา แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในงานนี้อีกอย่างคือ AirPods Pro 2 ที่สร้างความแตกต่างไปจากเดิมคือการออกแบบซอฟต์แวร์ “Hearing Aid Feature (HAF)” เพื่อช่วยให้ผู้ใหญ่ที่มีปัญหาการได้ยินเล็กน้อยถึงปานกลาง สามารถปรับแต่ง AirPods Pro 2 ให้เป็นเครื่องช่วยฟังได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญ และยังสามารถซื้อใช้งานได้เองอย่างสะดวกมากขึ้น

โดย Apple ได้ประกาศว่า FDA หรือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกานั้นได้อนุมัติสิ่งที่เรียกว่า “คุณสมบัติเครื่องช่วยฟังที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ (Over-the-Counter หรือ OTC) เป็นเครื่องแรก” โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้อนุมัติการอัปเดต Software ที่เปิดใช้งานฟังก์ชันนี้แล้ว


“การสูญเสียการได้ยินเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันหลายล้านคน” Michelle Tarver จาก FDA กล่าวในแถลงการณ์ การอนุมัติครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เทคโนโลยีช่วยเหลือด้านการได้ยินเข้าถึงง่ายขึ้น และมีราคาที่จับต้องได้ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ที่มีปัญหาการได้ยินเป็นอย่างมาก

สำหรับ AirPods Pro 2 ของ Apple นั้นมีราคาอยู่ที่ 249$ ซึ่งถูกกว่าเครื่องช่วยฟัง OTC อื่น ๆ มาก เช่น เครื่องช่วยฟังแบบสวมเอง CRE-E10 ของ Sony มูลค่า 1,099$ หรือ Enhance Select 50R ของ Jabra ซึ่งเริ่มต้นที่ 995$

มีข้อแม้เพียงข้อเดียวคือผู้ใช้ต้องใช้ iPhone ที่ใช้ iOS 18 เพื่อให้ฟีเจอร์ใหม่นี้ทำงานได้ ขึ้นอยู่กับรุ่น iPhone ที่ผู้ใช้มีอยู่แล้วหรือต้องการจะซื้อใหม่ ดังนั้นค่าใช้จ่ายรวมในการ Setup เครื่องช่วยฟังของ Apple อาจสูงกว่าตัวเลือก OTC อื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกเหล่านี้ก็ยังคงถูกกว่าเครื่องช่วยฟังตามใบสั่งแพทย์ทั่วไป ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ $2,300 (ประมาณ 76,500 บาท)