หากใครยังจำกันได้ทีม bt เพิ่งรีวิว Huawei Watch GT 4 ไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว นี่ใกล้จะครบปี Huawei Watch GT 5 ก็ต้องมาสิครับ สมาร์ตวอตช์รุ่นไลฟ์สไตล์เกือบจะเรือธง ที่ใส่เอาหรูเอาหล่อ หรือใส่ออกกำลังกายก็ได้ด้วยนะ มีทั้งรุ่น GT 5 และ GT 5 Pro มาอัปเดตให้ฟังว่ามีฟีเจอร์อะไรใหม่บ้าง และคนที่ใช้มาเกือบครบปีควรเปลี่ยนแล้วหรือยัง?

ดีไซน์ 

HUAWEI Watch GT 5 และ GT 5 Pro ยังคงใช้หน้าปัดขนาด 46 มิล มาพร้อมหน้าจอ AMOLED เหมือนเดิม และมีหน้าปัดไซส์ 41-42 มิลสำหรับผู้หญิงด้วยนะ ตัวเรือนอัปเกรดวัสดุจากเดิมใช้แสตนเลสสตีลเปลี่ยนมาเป็นไทเทเนียมทรง 8 เหลี่ยม เกรดเดียวกับที่ใช้ในวัสดุประกอบอากาศยานเลยนะ เบาขึ้นและแข็งแรงขึ้นด้วย แต่ที่พิเศษคือตัวเลขที่ขอบด้านนอกรุ่นก่อนเขาใส่มาทุกช่อง แต่รุ่น HUAWEI Watch GT 5 Pro ปรับลดลงเหลือแค่ลงท้ายเลข 5 ตรงกับเลขรุ่นพอดีเลยนะ

HUAWEI Watch GT 5 ตั้งค่าหน้าจอเริ่มต้น 13 รูปแบบ (เพิ่มขึ้นจากเดิม 10 รูปแบบ) ทั้งหน้าแบบคลาสสิกและน้องแพนด้าก็มา แต่ถ้ายังไม่ถูกใจก็ไปโหลดเพิ่มได้อีกเป็น 100 รูปแบบ สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือแบตเตอรี่ที่ยังคงใช้งานได้สูงสุด 14 วัน ในรุ่นหน้าปัดขนาด 46 มิล และ 7 วันสำหรับรุ่นหน้าปัด 41-42 มิล

ออกกำลังกาย

HUAWEI Watch GT 5 ยังคงเน้นย้ำเรื่องการออกกำลังกายที่ทำได้ไม่ต่างจากมีโค้ชใกล้ตัว รองรับโหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมดเช่นเดิม ไม่ว่าจะวิ่ง ปั่น ว่าย ดำน้ำได้สูงสุด 40 เมตร 

โดยเฉพาะกีฬากอล์ฟ ที่เขามีฟีเจอร์บอกข้อมูลค่อนข้างละเอียดเวลาดาวน์สวิง จังหวะการแกว่ง และความเร็วการแกว่งได้ รองรับแผนที่สนามกอล์ฟในโลกกว่า 15,000 แห่งทั่วไป ทำให้ผู้ใช้เห็นข้อมูลสนามแบบ 3 มิติ วางแผนการตีล่วงหน้าได้ ประกอบกับข้อมูลสภาพแวดล้อม ความเร็วลม ทิศทางลม และความลาดชันสีเขียวได้แบบเรียลไทม์

HUAWEI WATCH GT 5 ยังมาพร้อมระบบนำทางที่แม่นยำขึ้น ผู้ใช้สามารถโหลดแผนที่ล่วงหน้าก่อนการออกกำลังกายได้ แถมด้วยฟีเจอร์นำทางแบบแยกส่วน ให้ทำจุดเช็กพ้อยต์เองแบบง่าย ๆ พร้อมฟีเจอร์ RouteDraw ออกแบบเส้นทางวิ่งเป็นรูปต่าง ๆ วิ่งเสร็จแล้วแชร์ให้เพื่อนดูได้เลย พร้อมแสดงผลด้วย Activity ring หรือวงแหวนสุขภาพยังอยู่มีให้ ช่วยบอกข้อมูลแคลอรี่ การออกกำลังกายและการยืนแบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถตั้งเป้าหมายในแต่ละวันได้ด้วย

สุขภาพ

หลายคนซื้อสมาร์ตวอตช์เพราะเรื่องสุขภาพ HUAWEI Watch GT 5 เองก็อัปเกรดเซนเซอร์ใหม่ เพื่อการตรวจวัดข้อมูลที่แม่นยำขึ้น ที่สำคัญเขาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพจิตใจมากขึ้น ถ้าลองเข้ามาที่หน้าแอปจะเห็นว่ามีแอปสำหรับจิตใจอยู่ 2 ตัวด้วยกัน คืออีกแอปวัดความเครียดในแต่วัน ซึ่งแอปนี้ก็มีมาตั้งแต่รุ่นก่อนแล้วครับ

อีกแอปคือ Emotional Wellbeing ที่วัดค่าอารมณ์ได้ และใครตั้งค่าหน้าปัดเป็นหมีแพนด้า เขาแสดงผลข้อมูลเป็นท่าทางของหมีแพนด้าด้วยนะ เพียงแค่ยกมือขึ้นมาก็พอจะรู้อารมณ์ตัวเองได้นะ

หมีแพนด้า BG สีฟ้า – อารมณ์ปกติ
หมีแพนด้า BG สีส้ม – อารมณ์ดี
หมีแพนด้า BG สีม่วง  – อารมณ์เสีย

เรื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ หลายคนน่ะจะเคยได้ยินชื่อเซนเซอร์ TruSeenTM 5.5+ ที่ช่วยในการอ่านค่าออกซิเจนในเลือด (spO2) HUAWEI Watch GT 5 เพิ่มเซนเซอร์ในการตรวจออกซิเจนได้ถึง 12 ช่องสัญญาณ มากกว่ารุ่นเดิม 4 ช่องสัญญาณ จึงทำให้ตรวจวัดได้แม่นยำมากขึ้นนั่นเองครับ

เปลี่ยนเลยดีไหม?

หลังจากได้ลองทดสอบฟีเจอร์กันมาสักพัก พบว่าจริงๆ ฟีเจอร์ของ HUAWEI Watch GT 5 ไม่ได้ต่างจากรุ่นเดิมมากนัก แต่ได้เรื่องความแม่นยำมากขึ้น ทั้งเซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและออกซิเจน รวมถึงระบบการติดตามดาวเทียม GNSS แบบความถี่คู่ที่แม่นยำขึ้น รวมถึงฟีเจอร์สำหรับคนรักกีฬาอย่างวิ่ง กอล์ฟ ปั่นจักรยาน ไปจนถึงดำน้ำ ใครซีเรียสเรื่องพวกนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยน 

ส่วนใครที่ใช้รุ่นเริ่มต้นมาสักพัก อยากได้สมาร์ตวอตช์ที่ครบเครื่องมากขึ้น HUAWEI Watch GT 5 ก็น่าจะตอบโจทย์ทั้งฟีเจอร์ทุกอย่างมีพร้อม ครบเรื่องออกกำลังกาย สุขภาพและการนอน และยังมีดีไซน์เรียบหรูสมกับเป็นสมาร์ตวอตช์ตัวท็อปเลยครับ

HUAWEI WATCH GT 5 46mm เปิดราคาเริ่มต้น 6,990 บาท ส่วนหน้าปัดเล็ก 41mm เริ่มต้น 6,990 บาท และรุ่น HUAWEI WATCH GT 5 Pro 46mm ราคาเริ่มต้น 9,990 บาท และรุ่นหน้าปัดเล็ก 42mm เริ่มต้น 12,990 บาท