วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม ดัชนีมหาเศรษฐีของโลกโดย Bloomberg ได้จัดอันดับให้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 206,200 ล้านเหรียญ (6.86 ล้านล้านบาท) โดยเบียด เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Amazon ที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 205,100 ล้านเหรียญ (6.82 ล้านล้านบาท) ตกไปอยู่อันดับ 3 แต่ก็ยังคงตามหลังอันดับ 1 คือ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla อยู่พอสมควรประมาณ 50,000 ล้านเหรียญ (1.6 ล้านล้านบาท)

เมื่อวันพฤหัสบดี ซักเคอร์เบิร์กขึ้นมาสู่อันดับ 2 ได้ก็เพราะหุ้น 13% ที่เขาถืออยู่ใน Meta ทำราคาปิดสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 582.77 เหรียญ (19,393 บาท) จึงทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาแซงหน้าเบโซส เนื่องจากหุ้นของ Meta กำลังมาแรงจริง ๆ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้นอยู่เคยที่ 346.29 เหรียญ (11,523 บาท) จนถึงตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นมาประมาณ 68% ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 78,000 ล้านเหรียญ (2.59 ล้านล้านบาท) และเพิ่มขึ้นมากกว่าบรรดาเศรษฐีคนใดใน 500 อันดับของดัชนีฯ

กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ปี 2022 Facebook เผยว่ายอดขายจากระบบโฆษณาได้ลดลงมาประมาณ 10,000 ล้านเหรียญ (332,780 ล้านบาท) เนื่องจากปี 2021 Apple ได้ทำการอัปเดตความเป็นส่วนตัวใน iOS ส่งผลให้กลไกการติดตามผู้ใช้งานในระบบโฆษณาทำงานได้ไม่เต็มที่ ต่อมาพฤศจิกายน 2022 ก็ได้มีการลดต้นทุนโดยปลดพนักงานออกไป 11,000 คน และเดือนมีนาคม 2023 ก็ได้ปลดพนักงานอีก 10,000 คน ส่งผลให้หุ้นของ Meta ขึ้นทันทีเนื่องจากนักลงทุนได้เห็นปฏิกิริยาในเชิงบวก

ไตรมาสที่ 2 ปี 2023 Meta มีรายได้เติบโต 11% และรายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้น 12% ซึ่งได้แสดงถึงการฟื้นตัว หลังจากการเลิกจ้างพนักงาน 21,000 คน และการลงทุนในเทคโนโลยี AI รวมทั้งรายได้มากมายจากแคมเปญโฆษณาของ Temu และ SHEIN นอกจากนี้ Meta ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์แว่นตา AR Orion ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว