แหวนอัจฉริยะหรือ Smart Ring เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์กลุ่มอุปกรณ์สวมใส่ที่น่าสนใจเพราะขนาดที่เล็ก กระทัดรัดมากกว่าสมาร์ตวอตช์ และยังมีฟีเจอร์ที่สามารถตรวจจับด้านสุขภาพหลัก ๆ ได้ครบครัน อย่างไรก็ตาม สำหรับตอนนี้อาจยังไม่ใช่เวลาที่ดีสำหรับการซื้อแหวนอัจฉริยะเท่าไหร่นัก และนี่คือ 6 เหตุผลว่าทำไมถึงยังไม่น่าซื้อตอนนี้
- ขาดคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง: แหวนอัจฉริยะรองรับฟีเจอร์หลัก ๆ ครบครันแต่ก็มีฟีเจอร์บางประการที่ไม่มีอย่าง GPS ซึ่ง ณ จุดนี้ก็ยังต้องพึ่งสมาร์ตวอตช์อยู่
- ราคาสูง: แหวนอัจฉริยะยังมีราคาที่สูงมากในปัจจุบัน อย่าง Oura Ring, Ultrahuman Ring Air และแม้แต่แบรนด์จีนอย่าง Amazfit Helio ก็ยังมีราคาอยู่ที่ 299 เหรียญ หรือประมาณ 9,999 บาท และที่สำคัญ ผู้ผลิตบางรายยังมีบริการแบบรายเดือนหรือ Subscription ซึ่งทำให้เกิดค่าใช้จ่ายกับผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอีก
- ความทนทาน: เป็นอีกเรื่องที่ยังต้องคิดเหมือนกัน อย่างสมาร์ตวอตช์เป็นอุปกรณ์ที่เราใส่ไว้บนข้อมือ แต่แหวนเราใส่ไว้บนนิ้วซึ่งสามารถกระทบกับสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันซึ่งมีโอกาสทำให้เกิดความเสียหายได้ง่ายกว่า อย่างกรณีแหวน Ultrahuman Ring Air ที่เกิดร่องรอยความเสียหายแบบถาวรเมื่อยกเวดจ์เป็นต้น
- ยังไม่แม่นยำมากพอ: แม้ว่าจะมีฟีเจอร์สำหรับตรวจจับสุขภาพที่ค่อนข้างครบครัน แต่จากการทดสอบของหลาย ๆ เว็บรวมถึงผู้ใช้งาน Reddit หลาย ๆ คนก็บอกว่าความแม่นยำนั้นถือว่ายังอยู่ในระดับที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก
- แอปที่ใช้ร่วมกันมีจำกัด: ข้อได้เปรียบของสมาร์ตวอตช์คือการมีหน้าจอ ชิปประมวลผลที่แรง และระบบปฏิบัติการที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า เช่น การชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตวอตช์ เป็นต้น
- อายุของแบตเตอรี่และการชาร์จ: อายุของแบตเตอรี่ยังเป็นสิ่งที่น่ากังวลสำหรับสินค้ากลุ่มแหวนอัจฉริยะ การชาร์จ 1 ครั้งอยู่ได้นาน 3-4 วัน ที่สำคัญคือแบตเตอรี่ยังไม่สามารถเปลี่ยนได้ในเวลานี้ หากแบตเตอรี่เสื่อมก็ต้องเปลี่ยนทั้งแหวนเลย โดยอายุจะอยู่ได้ราว 2 ปีจากนั้นก็ต้องทิ้งแล้วเปลี่ยนใหม่อย่างเดียว
แม้ว่าปัจจุบันแหวนอัจฉริยะจะมีความน่าสนใจและมีคุณภาพมากกว่าแต่ก่อนเยอะแล้ว แต่ก็ยังต้องการการพัฒนาอีกมาก หลังจากการเปิดตัว Samsung Galaxy Ring ก็เป็นที่ชัดเจนว่าตลาดนี้ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ที่เหลือก็ขึ้นอยู่ที่การพัฒนาของผู้ผลิตครับ