นักวิเคราะห์ชี้ว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา (DOJ) ได้ยื่นแนวทางข้อเสนอในการแยกส่วนธุรกิจของ Google เพื่อลดความเป็นเจ้าตลาดเสิร์ชเอนจิน ที่อาจกระทบต่อแหล่งกำไรหลักและชะลอการพัฒนาด้าน AI

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (8 ตุลาคม) DOJ ได้ขอให้ศาลสูงบังคับให้ Google ขายธุรกิจบางส่วน เช่น Google Chrome และ Android ที่ DOJ มองว่าเป็นแหล่งที่ Google ใช้ในการผูกขาดตลาดเสิร์ชออนไลน์อย่างไม่เป็นธรรม

อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอีกหลายข้อเสนอที่ทางพนักงานอัยการกำลังพิจารณากันอยู่เท่านั้น

ข้อเสนออื่น ๆ มีตั้งแต่การไม่ให้ Google เก็บข้อมูลผู้ใช้ที่มีความละเอียดอ่อน การแบ่งผลการค้นหาและดัชนีการค้นหากับคู่แข่ง การยอมให้เว็บไซต์ต่าง ๆ มีทางเลือกในการไม่ให้ Google นำเนื้อหาของตัวเองไปฝึก AI และการบังคับให้ Google รายงานไปยังคณะกรรมการด้านเทคนิคที่ศาลตั้งขึ้น

กิล ลูเรีย (Gil Luria) ผู้อำนวยการบริหารและนักวิเคราะห์ซอฟต์แวร์อาวุโสจาก D.A. Davidson ชี้ว่า DOJ ได้ทำการ “วิศวกรรมย้อนกลับ” และตั้งใจแยกชิ้นส่วนสูตรความสำเร็จของ Google ตัวลูเรียมองว่านี่จะนำไปสู่การที่คู่แข่งมีความเข้มแข็งขึ้น และอาจสร้างการแข่งขันใหม่ ๆ

ขณะที่ มาร์ก ชมูลิก (Mark Shmulik) นักวิเคราะห์จาก Bernstein ชี้ว่า Google ไม่มีทางที่จะอยากต่อสู้ในสงคราม AI ด้วยการที่ “มือข้างหนึ่งถูกมัดไว้” โดยหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ

ผู้ที่จะได้ประโยชน์จากคำตัดสินของศาลมีตั้งแต่ Bing ของ Microsoft และ DuckDuckGo รวมถึง Meta และ Amazon ขณะที่ในสาย AI ตัวเก็งที่รอกินส่วนแบ่งโลกก็คือ OpenAI และ Perplexity

คามิล บาซบาซ (Kamyl Bazbaz) รองประธานอาวุโสฝ่ายกิจการสาธารณะแห่ง DuckDuckGo ชี้ว่าข้อเสนอของ DOJ สะท้อนถึงความเข้าใจว่าไม่มีทางที่ “การผูกขาดอย่างผิดกฎหมาย” ของ Google จะถูกพังทลายลงด้วยเพียงวิธีการเดียว แต่จะต้องใช้หลาย ๆ วิธีการ ทั้งในเชิงพฤติกรรมและโครงสร้างผสมผสานกันเพื่อปลดปล่อยตลาดจากการครอบงำของ Google