กลายเป็นสมาร์ตโฟนที่หลายสื่อในต่างประเทศจับตามองไปแล้ว สำหรับ vivo X200 Pro และ X200 Pro mini ที่มาพร้อมชิปเซตเรือธงรุ่นใหม่ของ MediaTek ที่เพิ่งเปิดตัวไป นั่นคือ Dimensity 9400 ซึ่งได้รับการอัปเกรดด้วยแกนซีพียู Cortex-X925 ทรงประสิทธิภาพ, ชิปจีพียู Immortalis-G925 ช่วยให้เรนเดอร์กราฟฟิกได้เร็วขึ้น และ ชิป NPU 890 รุ่นที่ 8 สำหรับประมวลผล AI ตามสมัยนิยม
ล่าสุด vivo X200 Pro และ X200 Pro Mini ได้รับการทดสอบประสิทธิภาพ AI ซึ่งปรากฏว่าได้คะแนนสูงสุดเหนือสมาร์ตโฟนทุกรุ่นในตลาดปัจจุบันนี้
vivo X200 Pro ได้คะแนนทดสอบ AI ถึง 10,132 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดในขณะนี้ รองลงมาคือ Vivo X200 Pro Mini ซึ่งทำได้ถึง 10,095 คะแนน
นี่เป็นการก้าวกระโดดจาก vivo X100 และ X100 Pro ที่มาพร้อม Dimensity 9300 อย่างชัดเจน

อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ อันดับที่ 1 – 8 ในการทดสอบนั้น เป็นสมาร์ตโฟนที่ได้รับการติดตั้งชิปเซต Dimensity (9300 และ 9400) ด้วยกันทั้งสิ้น ในขณะ Samsung Galaxy S24 Ultra ซึ่งมาพร้อมชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ตามมาในอันดับที่ 9 และ iPhone 15 Pro ที่มาพร้อมชิปเซต A17 Pro ของ Apple อยู่ในอันดับที่ 11
นอกจากนี้ vivo X200 Pro ยังเคยทำสถิติคะแนนสดสอบประสิทธิภาพบน AnTuTu สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 3,007,853 คะแนน

นอกจากใช้ศักยภาพจากชิปเซตสุดแรงแล้วนั้น vivo X200 Pro และ X200 Pro Mini ยังมาพร้อมสเปกสุดพรีเมียมมากมาย โดยมีข้อมูลสเปกของ vivo X200 Pro mini ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นในซีรีส์ X200 หลุดออกมา ดังนี้
- แผงหน้าจอ : OLED แบบ LTPO ขนาด 6.31 นิ้ว ความละเอียด 1.5K, รีเฟรชเรต 120 Hz
- ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้แผงหน้าจอ
- กล้องหลัง 3 ตัว : 50 ล้านพิกเซล (หลัก, เซนเซอร์ Sony LYT-818) + 50 ล้านพิกเซล (ซูม Periscope 3x) + 50 ล้านพิกเซล (Ultrawide, เซนเซอร์ Samsung JN1)
- แรม LPDDR5X สูงสุด 16 GB
- สตอเรจ UFS 4.0 สูงสุด 1 TB
- แบตเตอรี่ 5,700 mAh, ชาร์จไฟ 90 W, ชาร์จไฟไร้สาย 30 W
vivo เตรียมเปิดตัว X200 Pro และ X200 Pro Mini ที่ประเทศจีน ในวันที่ 14 ตุลาคม 2024 นี้