8 ตุลาคม กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ได้เสนอแนวทางสำหรับแก้ไขการผูกขาดการค้นหาของ Google ต่อผู้พิพากษา เช่น จำกัดข้อตกลงกำหนดเป็นเครื่องมือเริ่มต้นกับบริษัทเบราว์เซอร์ (Firefox) และผู้ผลิตโทรศัพท์ (Apple) การบังคับให้แชร์ข้อมูลการค้นหาแก่คู่แข่ง ป้องกันการใช้เอไอขับเคลื่อนการค้นหา และการแยกผลิตภัณฑ์หรือบริษัทออกจากธุรกิจการค้นหา

ต่อมา Google ก็ได้ออกมาตอบโต้ว่าเป็นข้อเสนอที่รุนแรงและมีผลกระทบที่ใหญ่มาก ซึ่งเสี่ยงที่จะส่งผลเสียต่อผู้บริโภค ธุรกิจ และนักพัฒนา โดยแย้งว่าการแยกผลิตภัณฑ์หรือบริษัทออกจากกัน เช่น Chrome และ Android จะทำให้ผู้ใช้จ่ายแพงขึ้น พร้อมเตือนว่าการกระทำของกระทรวงยุติธรรมอาจกระทบต่อการสร้างนวัตกรรมด้านเอไอของสหรัฐฯ เพราะกำลังอยู่ในช่วงการแข่งขันในเทคโนโลยีเอไอ

นอกจากนี้คาดว่ากระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ จะเสนอแนวทางที่ละเอียดขึ้นต่อศาลในวันที่ 20 พฤศจิกายน และทาง Google ก็มีโอกาสที่จะต่อสู้โดยเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของตัวเองในช่วงปลายเดือนธันวาคม จากนั้นในเดือนเมษายน 2025 ผู้พิพากษาจะเปิดการรับฟังคำโต้แย้ง นอกเหนือจากนี้คดีอาจจะไม่จบง่าย ๆ เพราะ Google ก็มีแผนที่จะยื่นอุทธรณ์

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ประจำเขตโคลัมเบีย ตัดสินว่า Google ได้ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐฯ ในการทำลายคู่แข่งและผูกขาดการค้นหาบนออนไลน์และโฆษณาที่เกี่ยวข้อง อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต ซึ่งคดีนี้ฟ้องร้องโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมื่อปี 2020 กล่าวหา Google ได้ควบคุมตลาดการค้นหาบนออนไลน์ประมาณ 90%

วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม ผู้พิพากษาศาลแขวงซานฟรานซิสโกในสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งให้ Google ปรับปรุงการดำเนินธุรกิจของแอป Android โดยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นเวลา 3 ปี จะต้องอนุญาตให้ผู้ใช้ Android สามารถดาวน์โหลดแพลตฟอร์มของคู่แข่ง และสามารถใช้ช่องทางการชำระเงินในแอปอื่น ๆ รวมทั้งห้ามจ่ายเงินให้ผู้ผลิตอุปกรณ์เป็นค่าติดตั้ง Google Play ไว้ล่วงหน้า ซึ่งสาเหตุมาจากถูก Epic ฟ้องร้องเมื่อปี 2020 ว่า Google ได้กระทำการผูกขาดในการเข้าถึงแอปบนอุปกรณ์ Android และวิธีการชำระเงินสำหรับการธุรกรรมภายในแอป