Apple ได้เปิดตัว iPad mini รุ่นใหม่ ที่ได้รับการอัปเกรดสเปกครั้งแรกในรอบ 3 ปี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง มาร์ก เกอร์แมน (Mark Gurman) นักข่าวชื่อดังจากสำนักข่าว Bloomberg วิเคราะห์ว่า แท้จริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งยุทธทางการตลาดเพื่อผลักดันอุปกรณ์ทั้งหมดเข้าสู่ยุคใหม่ของการใช้แพลตฟอร์ม AI ไปพร้อมกับ iPhone 16 ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จะเปิดตัวตามมาในอนาคต

iPad mini รุ่นล่าสุดนี้ มาพร้อมแรมขนาดความจุ 8 GB และชิปเซต A17 Pro เช่นเดียวกับที่ติดตั้งใน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max เพื่อให้รองรับการใช้แพลตฟอร์ม AI ใหม่ นั่นคือ Apple Intelligence เป็นสำคัญ ในขณะที่สเปกอื่น ๆ นั้น ยังไม่ได้รับการอัปเกรดอย่างก้าวกระโดดมากนัก

อุปสรรค

อย่างไรก็ดี iPad mini และ iPhone 16 ทั้ง 4 รุ่น จะยังไม่สามารถใช้ Apple Intelligence ได้ จนกว่าจะอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 18 เวอร์ชันใหม่วันที่ 28 ตุลาคม 2024 แต่สิ่งที่เกอร์แมนมองว่าเป็นอุปสรรคสำคัญ คือ ฟีเจอร์ชุดแรกบน Apple Intelligence นั้น จะยังไม่พร้อมใช้งานทั้งหมด

ฟีเจอร์แรกที่จะได้ใช้งานคือ การสรุปข้อความ ซึ่งถ้าหากทำงานได้อย่างแม่นยำก็จะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ใช้ ในขณะที่ฟีเจอร์อีก 3 ตัว จะได้รับการอัปเดตระหว่างเดือนธันวาคม 2024 – มีนาคม 2025

เกอร์แมนได้ลงลึกในรายละเอียด พบความคิดเห็นของพนักงานแอปเปิ้ลบางคนมองว่า AI ของบริษัทตัวเองยังคงตามหลัง AI ของ Google, OpenAI และ Meta อยู่ราว ๆ 2 ปี โดยจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า ChatGPT ของ OpenAI มีความแม่นยำมากกว่า 25% และสามารถตอบคำถามได้มากกว่า 30% เมื่อเทียบกับ Siri ของ Apple

แน่นอนว่า Apple จะเร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI ของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อให้ก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการ AI ลำดับต้น ๆ ในตลาด ดังที่เคยเกิดขึ้นกับแอปฯ Apple Maps ที่แม้จะตามหลัง Google Maps ในช่วงแรก แต่ก็ได้รับการพัฒนาจนมีประสิทธิภาพทัดเทียมกันในปัจจุบัน

ข้อได้เปรียบ

สิ่งที่ต้องจับตามอง คือ แม้ว่า Apple Intelligence จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ Apple สามารถใส่เทคโนโลยีนี้ลงในอุปกรณ์เกือบทุกไลน์อัปได้อย่างรวดเร็ว โดยทางบริษัทมีแผนจะเปิดตัว Mac ที่มาพร้อมชิปเซต M4 ซึ่งจะรองรับการทำงานด้าน AI อย่างเต็มศักยภาพในเร็ว ๆ นี้ รวมถึง iPhone SE รุ่นที่ใหม่ ที่จะเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2025 ด้วย

เมื่อทุกอย่างดำเนินไปตามกลยุทธที่ Apple วางไว้ คาดว่าอุปกรณ์เกือบทั้งหมดของ Apple (อาจยกเว้น Apple Watch) จะรองรับ Apple Intelligence ภายในปี 2026 ซึ่งจะทำให้ Apple กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการ AI ทัดเทียม Google และ Samsung Electronics Co. และจะทำให้เกิดการแข่งขันด้านการพัฒนาฟีเจอร์ AI อย่างเข้มข้นต่อไป

นักวิเคราะห์บางคนมองว่า Apple Intelligence ทำให้เกิดการปฏิวัติแพลตฟอร์ม AI สำหรับผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ยอดจำหน่าย iPad mini และ iPhone 16 ทั้ง 4 รุ่น ในช่วงเทศกาลหยุดยาวปลายปี 2024 มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

iPad mini