วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา Nvidia ผู้ผลิตหน่วยประมวลผลทางด้านกราฟิก (GPU) ได้ขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลกในช่วงสั้น ๆ หลังจากมูลค่าหุ้นได้ขึ้นมาแตะที่ 3.53 ล้านล้านเหรียญ (118.82 ล้านล้านบาท) ซึ่งแซงหน้า Apple ที่มีมูลค่า 3.52 ล้านล้านเหรียญ (118.48 ล้านล้านบาท) เนื่องมาจากการแข่งขันพัฒนา AI ที่ยังคงต้องการชิป AI รุ่นใหม่จำนวนมากจนทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และ Microsoft อยู่ในอันดับ 3 ด้วยมูลค่าหุ้น 3.18 ล้านล้านเหรียญ (107.04 ล้านล้านบาท)
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายน Nvidia ได้ก้าวสู่บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลกในช่วงสั้น ๆ โดยรับแรงหนุนจากความนิยมใน AI และความต้องการชิป AI ซึ่งส่งผลให้มูลค่าหุ้นสามารถแซงหน้า Microsoft และ Apple แล้วหลังจากนั้นก็แข่งขันกันอย่างสูสีมานานหลายเดือน จนล่าสุดได้กลับมาแซงเป็นอันดับหนึ่งอีกครั้ง แต่หลังจากปิดตลาดในวันศุกร์มูลค่าของ Nvidia ได้ลดลงมาเหลือ 3.47 ล้านล้านเหรียญ (116.80 ล้านล้านบาท) น้อยกว่า Apple ที่มีมูลค่า 3.52 ล้านล้านเหรียญ (118.48 ล้านล้านบาท)
สังเกตว่าราคาหุ้นของ Nvidia ได้เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมเกือบ 18% ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ OpenAI บริษัทผู้สร้าง ChatGPT สามารถระดมทุนมูลค่า 6,600 ล้านเหรียญ (222,155 ล้านบาท) ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าการฝึกโมเดลขนาดใหญ่อย่าง GPT-4 ต้องอาศัยชิป AI ของ Nvidia
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาหุ้นของ Nvidia ได้เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังจาก TSMC รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่มีกำไรเพิ่มขึ้น 54% ซึ่งมีแรงหนุนมาจากความต้องการชิป AI เช่นกัน ส่วน Apple พบว่ามียอดขาย iPhone ในจีนของไตรมาสที่ 3 ลดลง 0.3% ในขณะที่ยอดขายสมาร์ตโฟนของคู่แข่งอย่าง Huawei ได้พุ่งขึ้นถึง 42% ทั้งนี้ Apple จะมีการรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ในวันพฤหัสฯ ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5.55%