ในช่วงต้นสัปดาห์นี้มีผู้ใช้งาน iPhone รายงานว่าตัวเครื่องเกิดอาการรีสตาร์ตตัวเองแบบไม่ทราบสาเหตุ แต่ล่าสุดมีผู้เชี่ยวชาญได้เผยโค้ดภายในระบบพร้อมตอบข้อสงสัยว่าทำไม iPhone ถึงรีสตาร์ตตัวเอง
อ้างอิงจาก @naehrdine บอกว่า Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Inactive Reboot ใน iOS 18.1 โดยถูกนำไปใช้ใน keybagd และส่วนขยายเคอร์เนล AppleSEPKeyStore ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับสัญญาณเครือข่ายตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้เลยครับ
Inactive Reboot เป็นฟีเจอร์ที่ระบบจะบังคับรีสตาร์ตเครื่องโดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งานมาพักหนึ่ง โดยระบบจะเริ่มนับเวลาตั้งแต่การปลดล็อกเครื่องครั้งแรกหลังจากเปิดเครื่อง (turned on) หลังจาก 4 วันที่ไม่ได้ใช้งาน ระบบจะล็อก จากนั้นจะเริ่มการรีสตาร์ตตัวเอง แน่นอนว่าทำให้บุคคลที่ 3 หรือเจ้าหน้าที่เช่นตำรวจเข้าถึงข้อมูลภายในเครื่องได้ยากขึ้น เพราะหลังจากรีสตาร์ต ระบบจะกลับไปเป็นสถานะก่อน Unlock ครั้งแรกหรือ BFU (Before First Unlock)
ซึ่งเมื่อ iPhone กลับไปอยู่ในสถานะ BFU จะทำให้เข้าถึงข้อมูลหลายอย่างไม่ได้ เช่น notification center, control center, camera, Wi-Fi, Face ID, Touch ID, screenshots รวมถึง lock screen widgets แถมระบบไฟล์ของเครื่องยังถูกเข้ารหัสเอาไว้ จนกว่าผู้ใช้จะกรอกรหัสผ่านเครื่องถูกต้องถึงจะเข้าสู่สถานะ AFU (After First Unlock) ซึ่งจะเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ระบบรักษาความปลอดภัยไม่แน่นหนาเท่าสถานะ BFU