18 พฤศจิกายน เสียวหมี่ (Xiaomi) ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของจีนได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2024 มีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 92,506.5 ล้านหยวน (444,683 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 30.5% และเพิ่มจากไตรมาสที่ผ่านมา 4.1% รวมทั้งรถยนต์ซีดานไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัทคือ SU7 ที่เปิดตัวเมื่อปลายเดือนมีนาคม มียอดขาย 39,790 คัน เนื่องจากได้รับความสนใจจากตลาดเพิ่มขึ้น ด้วยราคาของรุ่นพื้นฐานที่ 215,900 หยวน (1,036,391 บาท) ถูกกว่า Model 3 รุ่นใหม่ในจีนที่ราคา 231,900 หยวน (1,112,857 บาท)
ในไตรมาสที่ 3 เสียวหมี่มีรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ตโฟน × AIoT อยู่ที่ 82,800 ล้านหยวน (397,089 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 16.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะและกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่ที่ 9,700 ล้านหยวน (46,530 ล้านบาท) มีกำไรสุทธิ 6,300 ล้านหยวน (30,215 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของเสียวหมี่มีรายได้ 9,500 ล้านหยวน (45,555 ล้านบาท) แต่ทั้งนี้ยังคงขาดทุนอยู่ด้วยยอดขาดทุนสุทธิที่ปรับแล้ว 1,500 ล้านหยวน (7,199 ล้านบาท) และมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 17.1%
เสียวหมี่มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า Xiaomi SU7 ทั้งหมดตั้งแต่เดือนปลายเดือนมีนาคมจำนวน 67,157 คัน และมีเป้าหมายในการส่งมอบใหม่ตลอดทั้งปีนี้จำนวน 130,000 คัน ซึ่งเพิ่มจากเป้าหมายเดิมที่เคยตั้งไว้ที่ 76,000 คัน
เดือนตุลาคม เสียวหมี่ได้เปิดตัว Xiaomi SU7 Ultra ที่เน้นประสิทธิภาพสูงและเทคโนโลยีล้ำสมัย มียอดพรีออร์เดอร์ถึง 3,680 คันภายใน 10 นาทีแรก ซึ่ง Huatai Securities บริษัทหลักทรัพย์ของจีนคาดการณ์ว่าเสียวหมี่จะสามารถส่งมอบ Xiaomi SU7 ทั้งหมดในปี 2025 ได้ถึง 400,000 คัน ซึ่งธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตขึ้น 20% ของรายได้เมื่อเทียบกับของปีนี้ที่ 8%
ตามข้อมูลของ Canalys ในไตรมาสที่ 3 เสียวหมี่ยังคงอยู่อันดับ 3 ของโลกในการจัดส่งสมาร์ตโฟน ด้วยยอดส่งมอบ 43.1 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 13.8% ติดอันดับ 1 ใน 3 แบรนด์ชั้นนำของโลก 17 ไตรมาสติดต่อกัน