บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ออกมาวิจารณ์ว่าออสเตรเลียออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดียออกมาด้วยความเร่งรีบ
กฎหมายฉบับนี้ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาเมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (28 พฤศจิกายน) เนื้อหาของกฎหมายบังคับให้บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Meta และ TikTok จะหยุดยั้งไม่ให้เยาวชนเข้ามาใช้งาน ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับสูงสุด 49.5 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (ราว 1,105 ล้านบาท)
ด้าน TikTok ออกมาแถลงกับสำนักข่าว Reuters ในวันศุกร์ (29 พฤศจิกายน) ว่ากฎหมายฉบับนี้อาจเป็นการผลักให้เยาวชนไปอยู่ในมุมที่มืดยิ่งกว่าบนโลกอินเทอร์เน็ต โดยชี้ว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ปัญหาที่จะตามมาจาก “กระบวนการที่เร่งรีบนี้” และระบุว่าบริษัทอยากทำงานร่วมกับรัฐบาลในการปกป้องเยาวชนและลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากกฎหมายฉบับดังกล่าวโดยไม่ได้ตั้งใจ
ขณะที่ Meta กล่าวหาว่ากฎหมายฉบับนี้เป็น “กระบวนการที่ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าแล้ว” และระบุว่าในคณะกรรมาธิการของสภาก็บอกว่าจุดเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพจิตของเยาวชนออสเตรเลียและโซเชียลมีเดียก็ยังไม่ชัดเจน ส่วน Snap (บริษัทแม่ Snapchat) บอกว่ากฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้ตอบคำถามอีกมาก
ทั้งนี้ รัฐบาลได้มีการแจ้งเตือนไปยังบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เป็นเวลาหลายเดือนก่อนการออกฎหมายฉบับนี้แล้ว และได้เคยประกาศว่าจะมีการออกกฎหมายฉบับนี้ในการตอบกระทู้ในรัฐสภาเมื่อต้นปี หลังจากมีการฟังคำให้การจากผู้ปกครองของเด็กที่ทำร้ายตัวเอง เพราะถูกกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ เหตุผลส่วนหนึ่งที่กฎหมายฉบับนี้ผ่านอย่างรวดเร็วก็เพราะได้รับความเห็นชอบจากพรรคฝ่ายค้าน
กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2025