แพต เกลซิงเกอร์ (Pat Gelsinger) ซีอีโอของ Intel ตัดสินใจลาออกจากบริษัทที่ตัวเองอยู่มากว่า 40 ปี แต่เป็นซีอีโอเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น (รับตำแหน่งเดือนกุมภาพันธ์ 2021) การลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นมา ในขณะที่ Intel ประสบปัญหาอย่างหนักทั้งการตัดสินใจทางธุรกิจที่ผิดพลาด ตามธุรกิจ AI ไม่ทัน ไม่สามารถนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ได้ตามเวลา และซีพียูรุ่นใหม่ที่ปัญหารุมเร้า
ทั้งนี้ เดวิด ซินสเนอร์ (David Zinsner) ซีเอฟโอ Intel และ ไมเคิล จอห์นสตัน โฮลเทาส์ (Michael Johnston Holthaus) ซีอีโอ Intel Products จะเข้ามาทำหน้าที่ซีอีโอร่วมไปพลางที่บริษัทหาตัวบุคคลมาแทนเกลซิงเกอร์ ส่วน แฟรงก์ เยียรี (Frank Yeary) ประธานอิสระของบอร์ด Intel จะดำรงตำแหน่งประธานบริหารชั่วคราว
เกลซิงเกอร์กล่าวในการแถลงข่าวว่าการเข้ามาบริหารเป็นเกียรติอย่างยิ่งในชีวิตหนึ่ง เขามองว่า Intel เป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่ยอดเยี่ยมและชาญฉลาดที่สุดในธุรกิจนี้ และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เรียกทุกคนว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน
อย่างไรก็ดี เกลซิงเกอร์เคยกล่าวในบทสัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Decoder เมื่อปี 2022 ว่า Intel จะต้องสร้างวัฒนธรรมการทำงานภายในและการลงมือปฏิบัติขึ้นมาใหม่ และยังต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าใหม่ด้วย
ในช่วงการดำรงตำแหน่งของเกลซิงเกอร์นั้น Intel อยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยดีนักทั้งกระแสตอบรับซีพียู Core Ultra 9 200s ที่ไม่ค่อยดีนัก ขนาดที่ โรเบิร์ต ฮอลลอก (Robert Hallock) รองประธานของ Intel ออกมายอมรับว่าการเปิดตัวไม่ได้เป็นไปตามที่วางแผนไว้
ไหนจะข่าวปัญหาที่มีผลต่อการผลิตชิป 18A ที่ทำให้เกลซิงเกอร์จำใจต้องประกาศว่าจะแยกธุรกิจผลิตชิปออกไปเป็นบริษัทที่เป็นเอกเทศตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่ผลประกอบการในธุรกิจผลิตชิปขาดทุนถึง 7,000 ล้านเหรียญ (ราว 241,097 ล้านบาท) ในปีที่แล้ว และยังต้องปลดพนักงานอีกกว่า 15,000 คนในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาด้วย