วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม แคธลีน แมคคอร์มิก (Kathaleen McCormick) ผู้พิพากษาศาลเดลาแวร์ได้ยืนยันในคำตัดสินเดิม ในการยกเลิกแพ็กเกจค่าตอบแทนในรูปแบบตัวเลือกซื้อหุ้นของบริษัทเทสลา (Tesla) ที่มีมูลค่า 56,000 ล้านเหรียญ (1,926,000 ล้านบาท) ให้กับ อีลอน มักส์ ซีอีโอของเทสลา หลังจากที่มีการประชุมผู้ถือหุ้นของเทสลาและลงคะแนนเสียงรับรองใหม่เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งปัจจุบันแพ็กเกจค่าตอบแทนดังกล่าวได้มีมูลค่าถึง 100,000 ล้านเหรียญ (3.4 ล้านล้านบาท) เนื่องจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้นของเทสลาได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้พิพากษาให้ความเห็น “แม้ว่าการลงคะแนนของผู้ถือหุ้นจะมีผลรับรองก็ตาม แต่ในที่นี้ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะหากว่าศาลยินยอมให้ผู้แพ้คดีสร้างข้อเท็จจริงหรือหลักฐานใหม่เพื่อต้องการแก้ไขคำพิพากษา คดีความต่าง ๆ ก็จะไม่มีที่สิ้นสุด”
แพ็กเกจค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นข้อตกลงเมื่อปี 2018 ที่เทสลามอบเป็นรางวัลให้แก่มัสก์ โดยจะได้รับตัวเลือกทั้งหมดเมื่อราคาหุ้นพุ่งสูงจนทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของเทสลาเติบโตสูงถึง 650,000 ล้านเหรียญ (22 ล้านล้านบาท) รวมทั้งบรรลุเป้าหมายสร้างรายได้ต่อปี 175,000 ล้านเหรียญ (6 ล้านล้านบาท) ซึ่งหากมัสก์ทำสำเร็จก็จะได้รับรางวัล 12 งวด รับตัวเลือกซื้อหุ้น 20.3 ล้านหุ้น ทั้งนี้มีเพียงไม่กี่คนที่คิดว่าเขาจะทำสำเร็จ แต่ในที่สุดมัสก์สามารถทำได้ตามเป้าหมาย ซึ่งในปี 2023 เขาได้รับสิทธิ์ในการซื้อหุ้นทั้งหมด
ในปี 2018 ริชาร์ด ทอร์เนตตา (Richard Tornetta) ผู้ถือหุ้นของเทสลาได้ยื่นฟ้องมัสก์และบริษัทเพื่อขอเพิกถอนแพ็กเกจค่าตอบแทนดังกล่าว ซึ่งให้เหตุผลว่าเป็นค่าตอบแทนที่สูงเกินไป ต่อมาปี 2022 การพิจารณาคดีก็ได้เริ่มขึ้น และเดือนมกราคม 2024 ผู้พิพากษาแม็กคอร์มิกได้ตัดสินคดีนี้ว่าแผนจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นโมฆะ โดยชี้ว่าเทสลาอยู่ภายใต้การควบคุมของมัสก์ และกระบวนการอนุมัติแผนการจ่ายค่าตอบแทนมีความบกพร่องอย่างมาก
หลังจากนั้นมัสก์ได้โจมตีศาลโดยโพสต์ผ่าน X ว่าอย่าจดทะเบียนบริษัทของคุณในรัฐเดลาแวร์ ซึ่งเขาได้ย้ายที่ตั้ง Neuralink บริษัทฝังชิปสมองจากเดลาแวร์ไปเป็นเนวาดา และย้าย SpaceX จากจากเดลาแวร์ไปยังเท็กซัสอีกด้วย จากนั้นเดือนมิถุนายน มีการประชุมผู้ถือหุ้นของเทสลาและลงคะแนนเสียงรับรองแพ็กเกจจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าวใหม่เป็นครั้งที่ 2
ผู้พิพากษาแมคคอร์มิกชี้แม้ว่าการประชุมผู้ถือหุ้นจะลงคะแนนรับรองแพ็กเกจดังกล่าว แต่จริง ๆ แล้ว ผู้ถือหุ้นรายใหญ่มีอิทธิพลต่อคณะกรรมการและการตัดสินใจของคณะกรรมการ และมองว่าการลงคะแนนเมื่อเดือนมิถุนายนมีข้อบกพร่อง เนื่องจากคณะกรรมการได้นำเสนอข้อมูลที่ทำให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจผิดและลงคะแนนรับรองอีกครั้ง
เทสลาได้เคลื่อนไหวโดยโพสต์บน X ว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน นอกจากนี้มัสก์ได้แสดงความคิดเห็นในโพสต์ของแฟนคลับบน X ว่า “ผู้ถือหุ้นควรมีอำนาจในการลงคะแนนเสียงบริษัท ไม่ใช่ผู้พิพากษา”