วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เขตโคลัมเบีย ได้ตัดสินให้ยกฟ้องคำร้องอุทธรณ์ของ TikTok และ ByteDance ซึ่งกล่าวหาว่ากฎหมายที่บังคับให้ TikTok ขายสินทรัพย์ให้กับบริษัทที่ไม่ใช่ของจีนภายใน 19 มกราคม 2025 ไม่เช่นนั้นแอปฯ จะถูกแบน เป็นกฎหมายที่ละเมิดสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ที่ห้ามมิให้รัฐบาลออกกฎหมายลดทอนสิทธิเสรีภาพในการพูดที่หมายถึงผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐฯ และดูเหมือนจงใจจะจัดการบริษัททั้งสองอย่างไม่เป็นธรรม
รัฐบาลสหรัฐฯ มีความกังวลว่า TikTok เสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ เนื่องจากรัฐบาลจีนสามารถสั่งให้บริษัทเทคโนโลยีแชร์ข้อมูลของผู้ใช้ให้แก่รัฐ ดังนั้นสหรัฐฯ จึงมีเป้าหมายให้ ByteDance ขายหุ้นของแพลตฟอร์ม TikTok ในสหรัฐฯ ไม่เช่นนั้นแอปฯ TikTok จะถูกแบน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อครีเอเตอร์ที่สร้างรายได้จากเนื้อหา หรือผู้ใช้จะเปลี่ยนใจหันไปใช้แอปฯ หรือแพลตฟอร์มอื่น
ผู้พิพากษาชี้ว่ากฎหมายดังกล่าวได้รับการร่างขึ้นอย่างรอบคอบ เพื่อจัดการกับการควบคุมโดยฝ่ายตรงข้ามจากต่างประเทศเท่านั้น และไม่ได้ละเมิดรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 1 เนื่องจากไม่ได้มีเป้าหมายระงับเนื้อหาหรือควบคุมการกระจายเนื้อหาบน TikTok
นอกจากนี้กฎหมายฉบับดังกล่าวไม่ได้ละเมิดรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 5 ในมาตรการยึดทรัพย์สิน ซึ่งระบุว่าห้ามยึดทรัพย์สินส่วนบุคคลเพื่อใช้ในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนที่ยุติธรรม โดยผู้พิพากษาให้ความเห็นว่าเนื้อหาบนแพลตฟอร์มอาจยังคงไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากโอนกรรมสิทธิ์ และผู้ใช้ในสหรัฐฯ จะยังคงมีอิสระในการอ่าน และแชร์เนื้อหาบน TikTok หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้มากมายเท่าที่ต้องการ
TikTok ออกมาเคลื่อนไหวว่าในวันที่ 19 มกราคม 2025 กฎหมายฉบับนี้จะปิดกั้นเสียงของชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านคน ทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก อีกทั้งมีความตั้งใจที่จะสู้ต่อในศาลฎีกา
เรื่องราวการแบน TikTok ในสหรัฐฯ ได้เริ่มเกิดขึ้นในปี 2020 ช่วงการบริหารของทรัมป์ โดยอ้างว่า TikTok เป็นภัยต่อความมั่นคง แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปในช่วงการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 ซึ่งทรัมป์สัญญาว่าจะช่วยให้ TikTok ปลอดภัย โดยหลังจาก 20 มกราคม 2025 กระทรวงยุติธรรมผู้บังคับใช้กฎหมายจะอยู่ภายใต้การบริหารของทรัมป์ ซึ่งคาดว่าอาจจะใช้วิธีการถอดแอปฯ ออกจาก App Store หรือไม่ก็หาทางเพิกถอนกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยจะต้องขอคะแนนโหวตจากพรรคฝั่งตรงข้ามด้วย
ส่วนประเด็นการขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในยุคของทรัมป์มีนักลงทุนที่สนใจซื้อ TikTok และมีการดีลเรื่องนี้กันไปแล้วด้วย แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลจีนจะไม่เห็นด้วย โดยเมื่อ 28 สิงหาคม 2020 กระทรวงพาณิชย์ของจีนได้เพิ่มข้อกำหนด AI เข้าไปอยู่ในรายการผลิตภัณฑ์ควบคุมการส่งออก เพื่อต้องการให้ ByteDance ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลจีนก่อนที่จะขาย TikTok แก่บริษัทอเมริกัน และที่สำคัญผู้ซื้อจะไม่ได้อัลกอริทึม AI ไปด้วย จึงทำให้ดีลการขาย TikTok ยากขึ้นไปอีก
สิ่งที่น่าสนใจก็คือการแบน TikTok ในสหรัฐฯ ใครจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้บ้าง ซึ่งที่เห็นชัดเจนหลังจากคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ปรากฏว่า หุ้นของ META เจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook พุ่งขึ้น 2.4% เนื่องจากผู้ลงโฆษณาใน TikTok จำเป็นต้องย้ายไปยังแพลตฟอร์มอื่น นอกจากนี้คู่แข่งด้านแพลตฟอร์มวิดีโอและคลิปสั้นอย่าง YouTube มีราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 1.25%