ในปัจจุบัน ประเทศจีนเป็นตลาดสมาร์ตโฟนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รองมาคือ อินเดีย และสหรัฐฯ ตามลำดับ แต่เมื่อลงลึกในตลาดสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมราคาตั้งแต่ 600 เหรียญ (ประมาณ 20,500 บาท) ขึ้นไปของประเทศจีนแล้วนั้น ปรากฏว่า Apple ครองส่วนแบ่งตลาดมากถึง 52% รองลงมาคือ Huawei ซึ่งครองอยู่ที่ 33%

นั่นจึงทำให้ Huawei ต้องการแย่งส่วนตลาดสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมในประเทศจีนให้มากขึ้น เพื่อแข่งขันกับ Apple โดยตรง โดยทางบริษัทได้ใช้กลยุทธ์ลดราคาสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมหลายรุ่น เพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายภายในประเทศให้สูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

  • Huawei Pura 70 Ultra สมาร์ตโฟนเรือธงสุดพรีเมียม เน้นการถ่ายภาพ สตอเรจ 1 TB ซึ่งเปิดตัวเดือนเมษายน 2024 ที่ผ่านมา ได้ลดราคาจาก 10,999 หยวน (ประมาณ 51,700 บาท) ลงมาอยู่ที่ 8,999 หยวน (หรือประมาณ 42,300 บาท)
  • Huawei Mate X5 สมาร์ตโฟนพับจอได้สุดพรีเมียม ซึ่งได้รับการเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2023 ได้ลดราคาจาก 12,999 หยวน (ประมาณ 61,100 บาท) ลงมาอยู่ที่ 10,499 หยวน (ประมาณ 49,300 บาท)
Huawei Pura 70 Ultra
Huawei Pura 70 Ultra

บริษัทวิจัยข้อมูล CINNO ได้รายงานว่า แม้ Huawei เป็นผู้นำในตลาดสมาร์ตโฟนพับจอได้ในประเทศจีนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Mate X5 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในปี 2024 สืบเนื่องมาถึง Mate X6 ที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา

สำหรับสมาร์ตโฟนเรือธงซีรีส์ Mate 70 ที่ Huawei เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมาเช่นกันนั้น กำลังประสบปัญหายอดจำหน่ายน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งปัจจัยหนึ่งมาจากชิปเซต Kirin 9020 ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตรของ SMIC มีศักยภาพเป็นรองชิปเซตระดับ 3 นาโนเมตร อย่าง A18 และ A18 Pro ที่ติดตั้งใน iPhone 16

อย่างไรก็ดี Counterpoint Research ได้รายงานว่า Huawei ยังตั้งเป้าว่า Mate 70 จะทำยอดจำหน่ายมากกว่า 10 ล้านเครื่อง ได้ในท้ายที่สุด

Huawei Mate X5
Huawei Mate X5