เอกสารที่รัฐยูทาห์ยื่นต่อศาลชี้ว่า TikTok รู้มานานแล้วว่าเนื้อหาไลฟ์สตรีมบนแพลตฟอร์มของตัวเองส่งเสริมการกระทำทางเพศและการใช้ประโยชน์จากเยาวชน แต่กลับทำเป็นมองไม่เห็น เพราะเป็นเนื้อหาที่สร้างกำไรให้บริษัทอย่างมหาศาล
ย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน ปี 2024 แผนกคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐยูทาห์ฟ้องว่า TikTok ใช้ประโยชน์จากเยาวชน โดย ชอน เรเยส (Sean Reyes) อัยการประจำรัฐชี้ว่าฟีเจอร์ไลฟ์สตรีมของ TikTok สร้าง “คลับเปลือยแบบเสมือนจริง” โดยการเชื่อมต่อระหว่างเหยื่อกับผู้ใหญ่ที่มีความต้องการแบบเรียลไทม์
เอกสารฉบับที่ได้รับการเปิดเผยนี้มีการอ้างถึงการสื่อสารภายในระหว่างพนักงาน TikTok และรายงานร้องเรียนที่เกิดขึ้น ในเอกสารชี้ว่า TikTok รับรู้ภัยที่เกิดขึ้นผ่านกระบวนการตรวจสอบที่ใช่ชื่อว่า Project Meramec ที่ในปี 2022 พบว่ามีเยาวชนอายุระหว่าง 13 – 15 ปีหลายแสนรายที่เล็ดลอดระบบจำกัดอายุขั้นต่ำ บริษัทระบุในผลการตรวจสอบว่ามีเยาวชนหลายรายถูกผู้ใหญ่ล่อลวงให้ทำกิจกรรมทางเพศโดยผู้ใหญ่ อย่างการเปลื้องผ้า เพื่อแลกกับของขวัญบนโลกออนไลน์
มีการพบด้วยว่า มีอีก 1 กระบวนการตรวจสอบที่ชื่อว่า Project Jupiter ที่เริ่มขึ้นในปี 2021 ซึ่งพบว่ามีอาชญากรที่ใช้ไลฟ์สตรีมในการฟอกเงิน ค้ายา และสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มก่อการร้าย โดยเฉพาะจากกลุ่มรัฐไอเอส ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2023 มีการศึกษาภายในที่พบว่า TikTok ยอมรับความโหดร้ายในการยังปล่อยให้มีฟีเจอร์ไลฟ์สตรีมที่มีความเสี่ยงต่อเยาวชน
ทางด้าน TikTok ต่อสู้คดีนี้ด้วยการอ้างหลักการรักษาความลับและย้ำว่าบริษัทให้ความสำคัญกับการป้องกันไม่ให้ “ตัวแสดงที่ไม่ดี” เข้าถึงวิธีการใช้แอปฯ ในทางที่ผิด โดยบอกว่าคำฟ้องของโจทก์เป็นการเลือกนำเสนอคำพูดและเอกสารเก่า ๆ ที่อยู่นอกบริบท
ทั้งนี้ คอรัล ซานเชส (Coral Sanchez) ผู้พิพากษาศาลยูทาห์สั่งให้มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม