ดูเหมือนว่าระบบการเซ็นเซอร์บน Facebook และ instagram (และ Threads) จะเปลี่ยนไปหลังการมาของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีคนใหม่ เพราะล่าสุด มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Meta ได้ออกมาระบุถึงอนาคตของโซเชียลมีเดียที่จะมีการเปลี่ยนแปลง
โดยซักเคอร์เบิร์กได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงการเซ็นเซอร์เนื้อหาในโซเชียลมีเดียของ Meta โดยจะยกเลิกการใช้งานโปรแกรมตรวจสอบที่ใช้บุคคลที่สาม ส่วนการยกเลิกครั้งนี้เพราะว่าทาง Meta ต้องการเพิ่มอิสรภาพในการแสดงความคิดเห็น และต่อไปนี้จะมีการยกเลิกการปิดกั้นเนื้อหาทางการเมือง รวมทั้งเนื้อหาเกี่ยวกับความเชื่อและแนวคิดต่าง ๆ
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนไปใช้นโยบายนี้จะทำให้เรามีโอกาสพบเนื้อหาที่มีความรุนแรงมากขึ้นเพราะว่าการลบเนื้อหาที่มีความรุนแรงจะทำได้ต่อเมื่อได้รับการรายงานเข้ามา โดยจะไม่มีการใช้โปรแกรมในการลบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมแบบอัตโนมัติ เพราะว่ามันมีข้อผิดพลาดที่จะลบสิ่งที่ไม่ได้มีความรุนแรงจริง ๆ ออกไป รวมทั้งยังมีข้อกังขาเรื่องความเป็นกลางทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีการประกาศใช้ระบบ Community Notes ที่คล้ายกับระบบที่ใช้บน X (ชื่อเดิม Twitter) ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มบริบทให้กับโพสต์ที่อาจทำให้เข้าใจผิดหรือไม่ถูกต้องได้
อย่างไรก็ตามทาง Meta ยังให้ความสำคัญกับการเซ็นเซอร์ข้อมูลของกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย และการละเมิดที่มีความรุนแรง เช่นการก่อการร้าย รวมทั้งการแสวงหาประโยชน์ทางเพศกับเด็ก และความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้สบายใจได้ว่ายังคงมีการเซ็นเซอร์ในส่วนนี้อยู่
โดยการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงนโยบายการเซ็นเซอร์ความรุนแรงนี้ เป็นการแถลงก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald trump) จะขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีไม่กี่วัน ทำให้คาดว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวมาตลอดว่ารัฐบาลของ โจ ไบเดน (Joe Biden) ได้เซ็นเซอร์เนื้อหาใน Facebook เกี่ยวกับการระบาดของ Covid-19 นอกจากนี้ทีมงานตรวจสอบเนื้อหาของ Meta ได้ย้ายจากรัฐแคลิฟอร์เนียไปรัฐเท็กซัส คาดว่าเพราะต้องการความเป็นกลางทางการเมือง ก็ต้องรอดูว่าในอนาคตการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลบวกหรือลบกับ Facebook และ instagram อย่างไร