OnePlus ได้เปิดตัว OnePlus 13R สำหรับตลาดระดับโลก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมที่มีราคาลดหลั่นลงมาจากรุ่นเรือธงอย่าง OnePlus 13
หนึ่งในจุดเด่นของ OnePlus 13R คือ กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (เซนเซอร์ Sony LYT-700 ขนาด 1/1.56 นิ้ว, OIS, บันทึกวิดีโอ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที) เสริมด้วยกล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (เซนเซอร์ Samsung JN5 sensor ขนาด 1/2.75 นิ้ว, ซูมไม่เสียความละเอียด 4x)
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (มุมกว้าง 112 องศา) และกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

ด้านหน้าได้รับการติดตั้งแผงหน้าจอ OLED แบบ LTPO ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1,264 x 2,780 พิกเซล, ปรับรีเฟรชเรต 1 – 120 Hz, รองรับค่าสีระดับ 10 บิต (HDR10+, Dolby Vision), ความสว่างสูงสุด 4,500 Nit และป้องกันรอยด้วยกระจก Gorilla Glass 7i
ในส่วนของฮาร์ดแวร์ภายในตัวเครื่องนั้น ใช้ศักยภาพจากชิปเซตระดับพรีเมียมอย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 3.3 GHz (ซีพียู Arm Cortex-X4) ทำงานร่วมกับแรม LPDDR5X ขนาด 12 GB และสตอเรจ UFS 4.0 ความจุ 256 GB บนซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 15 ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของ Android 15 ซึ่ง OnePlus ยืนยันจะว่าจะอัปเดตซอฟต์แวร์ต่อเนื่อง 4 ปี และอัปเดตความปลอดภัย 6 ปี
แบตเตอรี่มีความจุสูงถึง 6,000 mAh โดยรองรับเทคโนโลยีชาร์จไฟเร็ว SuperVOOC ระดับ 80 W ซึ่งชาร์จจาก 0% – 100% ได้ใน 52 นาที



ในส่วนของตัวเครื่องนั้นมีน้ำหนัก 206 กรัม เท่ากับ OnePlus 12R และบอดี้หนาขึ้น 0.8 มม โดยมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP65 (ป้องกันน้ำฉีดใส่รอบตัวเครื่อง) และเทคโนโลยี Aqua Tech 2.0 ที่ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานในขณะที่หน้าจอเปียกน้ำได้ดีขึ้น และ Glove Mode ที่ช่วยให้ใช้งานในขณะที่สวมถุงมือหนาได้
นอกจากนี้ยังรองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 (aptX-HD, LDAC และ LHDC 5.0), NFC และพอร์ต USB-C

OnePlus 13R มีด้วยกัน 2 สี คือ Astral Trail และ Nebula Noir โดยมีราคาจำหน่ายในอเมริกาเหนืออยู่ที่ 200 เหรียญ หรือประมาณ 20,800 บาท สำหรับหน่วยความจำ 12 GB / 256 GB
ในขณะที่ราคาจำหน่ายในประเทศอินเดียนั้น มีความแตกต่างออกไปดังนี้
- 12 GB / 256 GB : 43,000 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 17,800 บาท
- 16 GB / 512 GB : 50,000 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 20,200 บาท
