เชื่อว่าผู้ใช้งานหลาย ๆ คนในทุกวันนี้ต่างดูสเปกบนสมาร์ตโฟนเป็น เช่น ชิปประมวลผล รีเฟรชเรตหน้าจอ ความสามารถในการกันน้ำ ชาร์จไว จนสามารถพิจารณาได้ว่ารุ่นไหนที่คุ้มค่าต่อเงินที่จ่ายไป โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นสมาร์ตโฟนจากประเทศจีนที่สามารถอัดสเปกมาให้อย่างแน่น ในราคาที่เข้าถึงง่าย แต่เพราะอะไร ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนจีนจึงสามารถจำหน่ายในราคาที่ไม่แพงได้

หาเงินจากฮาร์ดแวร์

สิ่งที่ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนจีนโฟกัสไม่ได้อยู่ที่การทำเงินจากการขายอุปกรณ์ต่อเครื่องเป็นหลัก อย่างเช่น Xiaomi มีกำไรจากการจำหน่ายสมาร์ตโฟนเรือธงอยู่ที่ 8-9% แตกต่างจาก Apple ที่มีกำไรต่อเครื่องต่ำกว่า 25% ตามแหล่งที่มา แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สำหรับประเทศที่มีประชากรสูงอย่างประเทศจีนนั้น จะเน้นไปที่สมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับกลางที่ Apple ไม่ได้ทำตลาดส่วนนี้เป็นหลัก ดังนั้น ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนจีนจะชดเชยกำไรจากการจำหน่ายเครื่องจำนวนมาก ๆ แทน อันที่จริง Samsung เองก็เล็งเห็นตลาดนี้อยู่แล้ว บริษัทจึงเป็นเบอร์ 1 ของโลกจากการเน้นกลุ่มตลาดปริมาณ

หาเงินจากซอฟต์แวร์

นอกจากการเน้นปริมาณแล้ว ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนจีนยังสร้างรายได้จากการใส่โฆษณารวมถึง Bloatware หรือแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็นหรือมาจากผู้ผลิตรายอื่น ด้วยวิธีการนี้ทำให้ผู้ผลิตชาวจีนสามารถลดราคาค่าเครื่องหรือฮาร์ดแวร์ลงไปได้ โดยที่สเปกยังดูดีอยู่เหมือนเดิม

อีกหนึ่งวิธีคือการรวบรวมข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ เพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูลทำให้ยิงโฆษณาออกมาได้ตรงเป้าหมายขึ้นกว่าเดิม

สุดท้ายคือเรื่องการซัปพอร์ตหรืออัปเดต Android ที่ผู้ผลิตจีนมักจะไม่มีอัปเดตให้นานมาก เนื่องจากการอัปเดตซอฟต์แวร์นั้นมีต้นทุนในการพัฒนาให้อัปเกรดแต่ละรุ่น ๆ หากไม่มีการอัปเดตที่นานมากก็จะไม่มีต้นทุนในส่วนนี้ ทำให้ผู้ผลิตจีนสามารถลดราคาเครื่องลงได้เช่นเดียวกัน