โลกโซเชียลมีเดียกำลังจับตามองความเคลื่อนไหวที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของอุตสาหกรรมสื่ออีกครั้ง เมื่อมีข่าวลือแพร่สะพัดว่า อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของ Tesla และ X (Twitter) อาจพิจารณาเข้าซื้อกิจการ TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยมที่มีผู้ใช้งานนับพันล้านคนทั่วโลก และมีผู้ใช้มากกว่า 170 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนกำลังประเมินทางเลือกที่เป็นไปได้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการที่ อีลอน มัสก์เข้าซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ หากบริษัทไม่สามารถป้องกันการถูกแบน

แม้ TikTok จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ด้วยปัญหาด้านความมั่นคงของข้อมูลและแรงกดดันจากรัฐบาลในหลายประเทศ ทำให้การขายกิจการกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเมื่อชื่อของมัสก์ถูกโยงเข้ามาในกระแสข่าวครั้งนี้

เนื่องจากประเทศสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์หนักที่สุด โดยเฉพาะความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานในต่างประเทศ พร้อมขู่ว่าจะสั่งแบนแพลตฟอร์มนี้ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างความเป็นเจ้าของ

หากมัสก์ตัดสินใจซื้อ TikTok นั่นอาจเป็นการขยายอาณาจักรของเขาเข้าสู่กลุ่มผู้ใช้งานรุ่นใหม่ที่เน้นความบันเทิงแบบอินเทอร์แอ็กทีฟ

อย่างไรก็ตาม การซื้อกิจการครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจาก TikTok มีมูลค่าประเมินสูงถึงหลายแสนล้านเหรียญสหรัฐฯ อีกทั้ง ByteDance อาจไม่เต็มใจปล่อยสินทรัพย์หลักที่สร้างรายได้มหาศาล

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากการถูกวิจารณ์ว่าการเปลี่ยนมือไปยังมหาเศรษฐีสัญชาติอเมริกันอาจสร้างความไม่พอใจในประเทศจีน

แต่หากการเข้าซื้อสำเร็จ TikTok อาจเปลี่ยนโฉมจากการเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ไปสู่การเป็นสื่อสังคมที่หลากหลายและครอบคลุมมากขึ้นในสไตล์ที่มัสก์ถนัด เช่น การผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ากับแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มรายได้

แม้การซื้อ TikTok โดยอีลอน มัสก์ ยังคงเป็นเพียงข่าวลือ แต่หากเกิดขึ้นจริง ย่อมสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมโซเชียลมีเดีย ทั้งในแง่การเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจและรูปแบบการใช้งาน ความท้าทายและโอกาสในครั้งนี้นับว่าเป็นอีกก้าวสำคัญที่น่าจับตาอย่างยิ่งสำหรับทั้งผู้ใช้งานและนักลงทุนทั่วโลก