สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน OpenAI และ Microsoft กำลังตรวจสอบข้อสงสัยที่ว่า DeepSeek บริษัทเอไอของจีนอาจนำ API และดึงข้อมูลจากโมเดลเอไอของ OpenAI ไปใช้กับโมเดลที่เป็นคู่แข่ง ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงการใช้งานที่มีผลทางกฎหมาย หลังจากนักวิจัยด้านความปลอดภัยของ Microsoft ตรวจพบว่ามีข้อมูลจำนวนมากได้ถูกขโมยออกไปผ่านบัญชีนักพัฒนา OpenAI เมื่อปลายปี 2024 จึงสงสัยว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกับ DeepSeek
สองสามวันที่ผ่านมาแอปฯ AI assistant ของ DeepSeek ได้ขึ้นแท่นเป็นแอปฯ ฟรีอันดับ 1 ใน Apple App Store ของสหรัฐฯ ซึ่งแซงหน้า ChatGPT ของ OpenAI หลังจากพึ่งเปิดตัวเมื่อ 10 มกราคม ซึ่งแอปฯ ดังกล่าวขับเคลื่อนโดย โมเดล DeepSeek-V3 ที่ฝึกหรือเทรนโดยใช้ชิปรุ่นเก่า H800 ของ NVIDIA ที่จ่ายเงินไม่เกิน 6 ล้านเหรียญ (210 ล้านบาท) ซึ่งน้อยกว่าค่าใช้จ่ายในการเทรนโมเดลเอไอของสหรัฐฯ ที่ใช้ชิปรุ่นประสิทธิภาพสูงกว่า แต่ประสิทธิภาพของโมเดลเอไอใกล้เคียงกัน
OpenAI เผยว่าพบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับ DeepSeek ว่าได้มีการใช้วิธีกลั่นโมเดล (Distillation) ซึ่งเป็นกระบวนการถ่ายโอนการเรียนรู้จากโมเดลขนาดใหญ่ที่ผ่านการฝึกล่วงหน้า ซึ่งก็คือโมเดลคุณครูไปยังโมเดลนักเรียนที่เล็กกว่า ช่วยให้การฝึกโมเดลเป้าหมายกระชับมากขึ้น และสามารถทำนายได้ตรงกับโมเดลคุณครู ที่สำคัญใช้งบประมาณและเวลาน้อยกว่า
ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อได้ว่าการฝึกโมเดลเอไอของ DeepSeek จึงมีต้นทุนแค่เศษเสี้ยวของการฝึกโมเดล GPT-4 ของ OpenAI ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (3,377 ล้านบาท) ทั้งนี้แม้ว่า DeepSeek จะสามารถใช้ API และโมเดลของ OpenAI ไปใช้กับแอปฯ ของตัวเอง แต่การกลั่นการเรียนรู้มาสร้างโมเดลที่เป็นคู่แข่ง ถือว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงการใช้งานที่มีผลทางกฎหมาย
OpenAI เผยว่าบริษัทรับรู้มาตลอดว่าบริษัทของจีนและบริษัทอื่น ๆ ได้พยายามกลั่นโมเดลชั้นนำของสหรัฐฯ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งบริษัทจะใช้มาตรการตอบโต้ เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท และมีความรอบคอบในการเผยแพร่โมเดล รวมทั้งจะทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อปกป้องโมเดลความสามารถสูงจากคู่แข่ง