วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม Tesla ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 และตลอดทั้งปี 2024 ซึ่งซีอีโอ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เผยว่าบริษัทมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นราคาถูกที่เคยกล่าวถึงมานาน และจะเริ่มทำการทดสอบบริการเรียกรถยนต์ไร้คนขับภายในเดือนมิถุนายน 2025 ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีที่ช่วยให้นักลงทุนได้หลุดโฟกัสจากการลดลงของอัตรากำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ รวมทั้งการส่งมอบที่ลดลงเป็นปีแรก โดยเห็นได้ชัดจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น 3%

มัสก์บอกแค่นิดหน่อยว่าบริษัทจะเริ่มทดสอบบริการเรียกรถยนต์ไร้คนขับอย่างเต็มรูปแบบ ไม่มีคนควบคุม โดยจะทดสอบในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ส่วนแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นราคาถูกนั้นก็ไม่ได้กล่าวถึงสเปกคร่าว ๆ หรือราคาแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ก็มีนักวิเคราะห์สงสัยเรื่องกรอบเวลาว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ เพราะจะต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเข้มงวด แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่าการที่มัสก์สนับสนุนทรัมป์ในช่วงเลือกตั้ง ก็น่าจะช่วยให้การกำกับดูแลแท็กซี่ไร้คนขับมีแนวทางที่ชัดเจนขึ้น

นอกจากนี้ Tesla ได้คาดการณ์ว่าธุรกิจรถยนต์จะกลับมาเติบโตในปีนี้ ซึ่งเมื่อปลายปี 2024 มัสก์ก็ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าปี 2025 จะมียอดขายเติบโต 20% – 30%

รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ระบุว่า Tesla มีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น เนื่องจากกำไรสุทธิตามราคาตลาดของบิตคอยน์ที่บริษัทถือครองอยู่ 9,720 BTC มีมูลค่าถึง 1,076 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (36,151 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (20,000 ล้านบาท) จากที่ช่วงหลายไตรมาสก่อนแสดงมูลค่าไว้ที่ 184 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (6,184 ล้านบาท) ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะกฎทางบัญชีใหม่อนุญาตให้บริษัทที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถกำหนดมูลค่าการถือครองตามราคาตลาดในทุกไตรมาส เริ่มตั้งแต่ปี 2025 ซึ่งก่อนหน้านี้ให้รายงานแค่ในมูลค่าต่ำสุด