สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่รัฐของเวียดนาม เผยว่าเวียดนามได้ร่างกฎระเบียบที่แสดงว่าจะอนุญาตให้ Starlink เปิดบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมในประเทศได้ โดยยังคงมีสถานะเป็นเจ้าของบริษัทย่อยในเวียดนามได้อย่างสมบูรณ์ หลังจาก SpaceX บริษัทแม่ของ Starlink ได้พยายามเจรจากับกระทรวงไอซีทีของเวียดนามอยู่หลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ

มีการตั้งข้อสังเกตว่าเวียดนามได้ปรับเปลี่ยนท่าทีต่อ Starlink ของ SpaceX หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้กลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง และประกาศจะใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าระดับเดียวกับที่ประเทศนั้น ๆ เก็บกับสหรัฐฯ

ปีที่ผ่านมา เวียดนามมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 123,500 ล้านเหรียญ (4,152,315 ล้านบาท) สูงเป็นอันดับ 4 ในกลุ่มพันธมิตรของสหรัฐฯ และ SpaceX มีแผนจะลงทุน 1,500 ล้านเหรียญ (50,444 ล้านบาท) ในเวียดนาม เพื่อขยายเครือข่ายผู้ให้บริการจัดหาอุปกรณ์ไปยังผู้ใช้

ดังนั้นเวียดนามจึงมีความกังวลไม่น้อยว่าจะโดนสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยภาษี จึงพยายามลดยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ โดยจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และหากสนับสนุนการให้บริการ Starlink ในประเทศก็อาจจะช่วยลดยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ได้ด้วย

กฎหมายโทรคมนาคมของเวียดนามที่ออกมาเมื่อปี 2009 ได้จำกัดชาวต่างชาติถือหุ้นที่ไม่มีอำนาจควบคุมในบริษัทเครือข่ายโทรคมนาคมได้แค่ 50% แม้จะมีการแก้กฎหมายฉบับดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายน 2023 แต่ข้อจำกัดดังกล่าวก็ยังคงอยู่ จึงส่งผลให้บริการ Starlink ในเวียดนามถูกระงับ และเดือนกรกฎาคม 2024 ได้มีการเพิ่มข้อกำหนดว่าการสื่อสารทั้งหมดด้วยจานรับสัญญาณในเวียดนามจะต้องผ่านเกตเวย์ภาคพื้นดินในท้องถิ่นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายสาธารณะ เพราะกลัวว่าข้อมูลของผู้ใช้จะถูกเก็บรวบรวมจากต่างประเทศ

วันพุธนี้ เวียดนามจะบรรจุร่างกฎระเบียบใหม่เข้าพิจารณาในรัฐสภาเป็นวาระพิเศษ โดยจะอนุญาตให้ต่างชาติสามารถควบคุมการดำเนินงานของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีเครือข่ายดาวเทียมในวงโคจรต่ำได้อย่างเต็มที่ ภายใต้โครงการนำร่องที่จะมีไปจนถึงสิ้นปี 2030 ซึ่งโครงการเหล่านี้จะต้องผ่านการอนุมัติโดยนายกรัฐมนตรีของเวียดนาม