เปิดตัวกับชื่อใหม่ iPhone 16e แทนที่จะเป็นไปตามข่าวลือก็คือ iPhone SE4 ในการแถลงข่าวออนไลน์ เมื่อ Apple ถูกถามว่าตัวอักษร E ย่อมาจากอะไร ตัวแทนของ Apple ตอบว่าไม่ได้ย่อมาจากอะไร แต่ iPhone 16e เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทุกคน
ซึ่งสิ่งที่ทุกคนตกใจกันมากที่สุด ไม่ใช่ชื่อรุ่นที่ผิด แต่เป็นราคาที่แพงมากพอสมควร กั๊กหมดทุกอย่าง iPhone 16e จะคล้ายกับ iPhone 16 คือหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว และใช้ชิป A18 เหมือนกัน ซึ่งใช้ Apple (ไม่ค่อย) Intelligence ได้ด้วย ก็หมายถึงมีแรม 8 GB มาให้ในตัว แล้วก็มีปุ่ม Action Button มาให้ด้วย
iPhone 16e VS iPhone 13 เลือกซื้ออะไรคุ้มสุด !

แต่ความแตกต่างคือหน้าจอกลับเป็นจอบากอีกครั้ง ทำให้ไม่มี Dynamic Island แล้วก็กล้องหลังมีมาแค่ตัวเดียว ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ซึ่งกล้องตัวนี้สามารถถ่าย 1x และ 2x ได้สบาย ๆ แต่ไม่มีเลนส์มุมกว้างมาก และไม่สามารถถ่ายมาโครระยะใกล้ได้เหมือน iPhone 16 รุ่นธรรมดา และรองรับ Wifi6 ไม่รองรับ Wifi7 เหมือน iPhone 16 ธรรมดา คงคอนเซปต์กั๊กแล้ว กั๊กอยู่ กั๊กต่อ !
วันนี้แอดจึงหยิบยก รุ่นเก่าราคาดี อย่าง iPhone 13 มาเปรียบเทียบให้ลูกเพจที่แสนน่ารักดู เพราะ สเปกนี่แทบจะใกล้เคียงกัน แถมราคาก็ถูกกว่ามาก ถึงแม้ชิป A15 จะเก่ากว่า แถมมีแรมแค่ 4 GB แต่แอดเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เวลาที่เราจะเลือกซื้อโทรศัพท์สักเครื่อง สเปกบางอย่างก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่สิ่งที่ชี้วัดมาก ๆ คงเป็นเรื่องราคาเป็นหลัก และอย่าง iPhone 13 ก็ถือว่าตอบโจทย์ค่ะ
iPhone 13 ตัวคุ้มนี้จะแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือรูปร่างหน้าตา เพราะเขามี 2 กล้อง ที่ต่างจาก iPhone 16e ที่มีกล้องเดียว เรื่องกล้องก็ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ กินขาด แต่ iPhone 13 จะไม่มี Apple Intelligence นั่นเอง (ถามว่าใช้กันเยอะขนาดนั้นมั้ย ? ก็ไม่นะ) เพราะใช้ชิป A15 Bionic นั่นเอง
ที่สำคัญเลยคือ iPhone 13 มี MagSafe ให้เราใช้ แต่ตัวใหม่อย่าง iPhone 16e ไม่มี ปัจจุบัน iPhone 13 ยังสามารถหาซื้อได้ ผ่าน Shop ออนไลน์หลายแบรนด์ทั่วประเทศ ทุกคนเห็นความต่างกันไปแล้ว คิดเห็นยังไงกันบ้างคะ อยากจะเลือกซื้อรุ่นไหน คอมเมนต์มาพูดคุยกันหน่อย