หลังจากเรียกคืน Galaxy Note 7 รอบที่สองและหยุดจำหน่ายอย่างถาวรไปแล้ว เมื่อเช้าเวลาประมาณ 8.00 น. เวลาบ้านเรา ทาง Samsung ก็ได้แถลงการสาเหตุการระเบิดของ Galaxy Note 7 อย่างเป็นทางการแล้วครับ
Samsung ได้ทดสอบ Galaxy Note 7 ที่สมบูรณ์แล้วทั้งสิ้น 200,000 เครื่องและแบตเตอรี่ที่ใช้ใน Galaxy Note 7 ทั้งหมด 30,000 ก้อน นอกจากทดสอบในบริษัทตัวเองแล้วยังให้หน่วยงานอิสระชั้นนำในแวดวงอุตสาหกรรมร่วมทดสอบด้วย เช่น UL, Exponent และ TUV Rheinland
สาเหตุการระเบิดของ Galaxy Note 7 แยกเป็น 2 เคสจากเครื่องล็อตแรก และล็อตใหม่ที่แก้ไขแล้วแต่ก็ยังระเบิด ซึ่งไม่ได้เกิดจากทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์โทรศัพท์ทั้งคู่ แต่เกิดจากแบตเตอรี่เป็นหลัก เคสแรกเกิดจากการดีไซน์ของตัวเครื่องซึ่งมีขนาดของเคส (กรอบของเครื่อง) ที่เล็กประกอบกับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ ซึ่ง Samsung เรียกว่า Battery A ทำให้ขั้วแคโทดและแอโนดมาเจอกันจนเกิดระเบิดดังที่หลายๆ หน่วยงานเคยวิเคราะห์ผลกันก่อนหน้านี้
และเคสที่สองคือ Battery B คือกลุ่มที่ผ่านการซ่อมมาแล้ว (Fixed) แต่ยังพบปัญหาในตัวแบตเตอรี่ที่ตัวฉนวนทำให้ขั้วแคโทดและแอโนดยังมาชนกันจนเกิดระเบิดได้เหมือนเดิมครับ
หลังจากตรวจสอบพบสาเหตุดังกล่าวแล้ว Samsung ได้ออกมาตรการรับรองว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีกโดยดำเนิดการตรวจสอบเข้มข้นมากขึ้นรบมถึงใช้มาตรการตรวจสอบความปลอดภัยหลายขั้นในขั้นตอนการวางแผนการผลิตและการตรวจสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี่ทั้ง 8 จุด
นอกจากนี้ Samsung ยังตั้งกลุ่มที่ปรึกษาด้านแบตเตอรี่ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจาก มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์, UC เบิร์กรี่ และ มหาวิทยาลัยสแตนด์ฟอร์ด
ซึ่งตอนนี้ Samsung ก็ยืนยันออกมาแล้วว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอนครับ