โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพการประชุมหารือเกี่ยวกับการสะสมคริปโทเคอร์เรนซีไว้เป็นทุนสำรองของรัฐบาล โดยมีการเชิญผู้นำวงการคริปโทมาเข้าร่วมประชุม
ผู้เข้าร่วมการประชุมมีทั้ง แซก วิตคอฟฟ์ (Zach Witkoff) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง World Liberty Financial ธุรกิจคริปโทของทรัมป์ ไมเคิล เซย์เลอร์ (Michael Saylor) ซีอีโอของ MicroStrategy ไบรอัน อาร์มสตรอง (Brian Armstrong) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Coinbase สองพี่น้อง คาเมรอน (Cameron) และไทเลอร์ (Tyler) จากตระกูลวิงเกิลวอสส์ (Winklevoss) และเดวิด เบลีย์ (David Bailey) นักลงทุนรายใหญ่ รวมถึงยังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและนักการเมืองเข้าร่วมด้วย
เป้าหมายของการประชุมก็คือการหารือเกี่ยวกับการสร้างคลังสำรองเชิงยุทธศาสคร์ของรัฐบาลที่จะเก็บบิตคอยน์เอาไว้ ซึ่งเกิดขึ้นไปแล้วตามคำสั่งทางบริหารของทรัมป์เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีประเด็นการเก็บสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบอื่น ๆ ด้วย
คำสั่งฯ ดังกล่าวให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พัฒนายุทธศาสตร์เพื่อซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติมในลักษณะที่ไม่กระทบต่องบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้ว และไม่กระทบกับผู้เสียภาษี
เดวิด แซกส์ (David Sacks) ห้วหน้าที่ปรึกษารัฐบาลด้านคริปโทชี้ว่า คลังสำรองนี้จะเก็บบิตคอยน์ที่รัฐบาลกลางยึดมาได้จากการสืบสวนในคดีอาญาหรือของกลางที่ได้จากอาชญากร
บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมนี้ต่างก็ชื่นชมทรัมป์และรัฐบาลที่กรุยทางสู่การเติบโตของคริปโท ขณะที่ผู้บริหารในฝั่งของเอกชนชี้ว่าเป็นสิ่งดีที่รัฐบาลร่วมมือกับภาคส่วนอื่น หลังจากผ่านยุคที่ถูกรัฐบาลโจมตีจากความกังวลเรื่องความมั่นคงและการคุ้มครองผู้บริโภค
ทรัมป์ชี้ว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อเมริกาจะทำตามกฎที่ผู้ถือบิตคอยน์ทุกคนยึดถือก็คือการ “ไม่ขายบิตคอยน์” โดยชี้ว่าเขาไม่รู้ว่ามันจะเป็นทางที่ถูกต้องหรือไม่ แต่สำหรับตอนนี้ กฎนี้ก็ใช้ได้ผลมาตลอด
ด้าน สกอตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบอกกับผู้เข้าร่วมการประชุมว่าสหรัฐฯ จะยังคงเก็บเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้เป็นเงินสำรองและจะใช้สเตเบิลคอยน์ (คริปโทในสกุลที่มีฐานเชื่อมกับสินทรัพย์ประเภทอื่น) มาเสริมด้วย
ขณะที่ แบรด การ์ลิงเฮาส์ (Brad Gralinghouse) ซีอีโอของ Ripple ที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย เผยว่าเขารู้สึกยินดีที่ทรัมป์ตระหนักดีว่าโลกของคริปโทไม่ได้มีแค่บิตคอยน์ โดย XRP เหรียญคริปโทที่เชื่อมกับ Ripple ก็เป็นหนึ่งในสกุลคริปโทที่อาจจะนำไปไว้ในคลังสำรองของรัฐบาลด้วยเช่นกัน