รายงานของศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ (CSIS) ที่อ้างแหล่งข่าวในวงการชิปของจีนเผยว่า Huawei อาจมีชิปมากพอสำหรับผลิตชิป AI รุ่น Ascend 910C ได้ถึง 750,000 ตัว

แหล่งข่าวรายดังกล่าวระบุว่า SMIC ผู้ผลิตชิปรายสำคัญของจีนสามารถเอาชนะข้อจำกัดในการผลิตชิปด้วยกระบวนการ 7 nm ด้วยเครื่องมือที่ได้มาจากสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ แม้ว่า SMIC ยังไม่สามารถแข่งกับ TSMC ของไต้หวันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ แต่การเป็นหุ้นส่วนกับ Huawei ทำให้สามารถเอาชนะอุปสรรค โดยไม่ต้องใช้เครื่องพิมพ์ชิป EUV ในการผลิตชิปขั้นสูงได้

รายงานของ CSIS ชี้ว่าการที่บริษัท AI ของจีนสามารถพัฒนาโมเดล AI ให้ก้าวหน้าได้แม้ว่าสหรัฐฯ จะจำกัดการส่งออกชิปรุ่นใหม่ของ NVIDIA มายังจีน อาจเป็นเพราะการที่สหรัฐฯ ไม่รู้ว่า NVIDIA มีกลไกในการปรับปรุงชิปที่ผ่านการผลิตมาแล้ว

ตัวอย่างก็คือการที่ NVIDIA ทำให้ฟิวส์ของชิป A100 ขาด เพื่อลดความเร็วในการเชื่อมต่อกับชิปตัวอื่น (Interconnect speed) เพื่อให้ผ่านเงื่อนไขขั้นต่ำในการส่งออกชิปของสหรัฐฯ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งพลังในการประมวลข้อมูลเท่าเดิม ทำให้เกิดเป็นสายการผลิต A800 ที่ถูกใช้ในการพัฒนา DeepSeek

กลับมาที่ในกรณีของ Huawei ซึ่งก่อนหน้านี้แม้ว่าสหรัฐฯ จะสั่งห้ามไม่ให้ TSMC ส่งชิปไปยัง Huawei เพื่อขัดขวางการพัฒนาชิป AI ซึ่งได้แก่ Ascend 910B และ Ascend 910C แต่แหล่งข่าวในรัฐบาลบอกกับ CSIS ว่าก่อนหน้าที่จะมีการออกมาตรการห้ามส่งออก ทาง TSMC ก็ได้พัฒนาแผ่นชิปโลจิกสำหรับการผลิต Ascend 910B ไว้แล้วกว่า 2 ล้านแผ่น ซึ่งแผ่นชิปทั้งหมดนี้อยู่ในการครอบครองของ Huawei

นอกจากนี้ ด้วยเหตุที่ Ascend 910C เป็นการวางแผ่นชิป 910B 2 ตัวไว้ด้วยกัน นักวิจัยจึงเชื่อว่า Huawei จะสามารถผลิตชิป Ascend 910C ได้มากถึง 1 ล้านตัว (ก็คือแผ่นชิป Ascend 910B 2 ตัว = ชิป Ascend 910C 1 ตัว) แต่จากความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ในขั้นการบรรจุ อาจทำให้ท้ายที่สุดแล้วจะสามารถผลิตได้ราว 75% หรือประมาณ 750,000 ตัว

ในส่วนของเครื่องพิมพ์ชิปด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต แม้ว่าสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์จะออกมาตรการห้ามส่งออกเครื่องพิมพ์ชิปขั้นสูง หรือ EUV ไปยังจีน แต่เครื่อง DUV ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าและเครื่องมืออื่น ๆ ที่อยู่ในการครอบครองของ SMIC ก็ยังสามารถผลิตด้วยกระบวนการ 7 nm ได้อยู่