OPPO ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงแห่งปี 2025 ของแบรนด์ นั่นคือ Find X8 Ultra ที่ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องจาก Find X7 Ultra โดยได้รับการปรับปรุงดีไซน์ให้สวยงามยิ่งขึ้น, ประสิทธิภาพสูงขึ้น, แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น และปรับปรุงคุณภาพกล้องให้สูงขึ้น
OPPO อ้างว่า Find X8 Ultra เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงเน้นด้านการถ่ายภาพที่มีความบางที่สุดในตลาดปัจจุบัน อยู่ที่ 8.78 มม. ซึ่งบางลงจากรุ่นก่อนที่มีความบาง 9.5 มม. เสริมความแข็งแกร่งด้วยมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68/69 ช่วยป้องกันตัวเครื่องในน้ำลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที และน้ำแรงดันสูงที่อุณหภูมิสูงสุด 80 องศาเซลเซียส รวมถึงมาตรฐานความทนทาน SGS ระดับ 5 ดาว
ด้านหน้าตัวเครื่องยังคงติดตั้งแผงหน้าจอ OLED เทคโนโลยี LTPO ขนาด 6.82 นิ้ว ความละเอียด 3,168 x 1,440 พิกเซล ซึ่งรองรับรีเฟรชเรต 1 – 120 Hz พร้อมรองรับค่าสีระดับ 10 บิต และความสว่างสูงสุด 1,600 Nit
OPPO Find X8 Ultra ได้รับการอัปเกรดมาใช้ศักยภาพจากชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Elite ระดับ 8 คอร์ ที่มีความเร็วสูงสุด 4.32 GHz ซึ่งทำงานร่วมกับแรม LPDDR5X-9600 ความจุสูงสุด 16 GB และสตอเรจ UFS 4.1 ความจุสูงสุด 1 TB บนซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 ที่อ้างอิงพื้นฐานจาก Android 15
หนึ่งในสิ่งที่ได้รับการอัปเกดขึ้นอย่างชัดเจน คือ การปรับมาใช้แบตเตอรี่ซิลิคอน-คาร์บอน ความจุ 6,100 mAh ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 20% จากรุ่นก่อน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จไฟเร็ว SUPERVOOC ระดับ 100 W และชาร์จไฟไร้สาย AIRVOOC ระดับ 50 W รวมถึงแบ่งปันการชาร์จแก่อุปกรณ์อื่นที่ 10 W
ด้านการถ่ายภาพนั้น ได้รับการอัปกรดกล้องซูมขึ้นอย่างชัดเจน ดังนี้
- กล้องซูมแบบ Periscope ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ Sony LYT700 ขนาด 1/1.56 นิ้ว, ความยาวโฟกัส 70 มม., ซูมแบบไม่เสียความละเอียด 3x, รูรับแสง f/2.1
- กล้องซูมแบบ Periscope ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ Sony LYT600 ขนาด 1/1.95 นิ้ว, ความยาวโฟกัส 135 มม., ซูมแบบไม่เสียความละเอียด 6x, รูรับแสง f/3.1
ด้านกล้อหลักยังคงสเปกเดิมที่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล โดยยังคงใช้ศักยภาพจากเซนเซอร์ Sony LYT900 ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว, ความยาวโฟกัส 23 มม. และ f/1.8 ซึ่งทาง OPPO อ้างว่าเป็นเซ็นเซอร์ภาพที่มีขนาดใหญ่กว่าเซนเซอร์ที่ใช้ในกล้องหลักของ iPhone 16 Pro Max และ Samsung Galaxy S25 Ultra ถึง 63% และ 69% ตามลำดับ
แต่กล้อง Ultrawide ได้ถูกดาวน์เกรดลงมาใช้เซนเซอร์ Samsung JN5 ขนาด 1/2.75 นิ้ว, ความยาวโฟกัส 15 มม. และ รูรับแสง f/2.0 ซึ่งถึงแม้จะยังคงมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล แต่มีความยาวโฟกัสสั้นลงจาก 14 มม. ในรุ่นก่อน
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้อง True Chroma ที่ได้รับการปรับแต่งการประมวลผลโดย Hasselblad เพื่อวิเคราะห์ค่าอุณหภูมิสีในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้เรนเดอร์โทนสีผิวได้อย่างแม่นยำในทุกสภาวะแสง
ในขณะที่กล้องหน้ายังคงมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล โดยใช้เซนเซอร์ Sony LYT506 ขนาด 1/2.74 นิ้ว, ความยาวโฟกัส 21 มม. และรูรับแสง f/2.4 เช่นเดิม
ระบบกล้องของ OPPO Find X8 Ultra นั้น ยังใช้ศักยภาพจากเอนจินภาพ HyperTone ตัวใหม่ ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพในการคำนวณค่าแสง และใช้ AI ช่วยเก็บรายละเอียดและความลึกของภาพ และเอนจิน ProXDR ช่วยยกระดับการจัดการแสงและสีได้ดียิ่งขึ้น
กล้องดังกล่าวยังได้รับการอัปเกรดให้บันทึกวิดีโอสโลว์โมชัน ความละเอียด 4K ที่ 120 เฟรมต่อวินาที และรองรับการเก็บภาพแบบ Dolby Vision ได้อีกด้วย
OPPO Find X8 Ultra ยังได้รับการติดตั้งปุ่มกดใหม่ 2 ตัว ดังนี้
- ปุ่ม Shortcut ที่สามารถปรับแต่งเพื่อใช้งานร่วมกับฟังก์ชันและแอปต่าง ๆ ได้ตามต้องการ
- ปุ่ม Quick ที่สามารถใช้ควบคุมการถ่ายภาพ คล้ายกับที่ใช้บน OPPO Find X8 Pro
OPPO Find X8 Ultra มาพร้อมตัวเครื่องสี Matte Black, Pure White และ Shell Pink โดยบอดีมีสัมผัสพื้นผิวที่เรียบและด้าน เสริมความพรีเมียมด้วยแผ่นกระจกที่เงางาม
OPPO จะวางจำหน่าย Find X8 Ultra ที่ประเทศจีนในวันที่ 16 เมษายน 2025 โดยมีราคาดังนี้
- 12/256 GB : 6,499 หยวน หรือประมาณ 29,800 บาท
- 16/512 GB : 6,999 หยวน หรือประมาณ 32,100 บาท
- 16 GB/ 1 TB : 7,999 หยวน หรือประมาณ 36,700 บาท
ทั้งนี้ต้องติดตามว่า OPPO Find X8 Ultra จะได้รับการวางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศหรือไม่
