Apple ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตบางส่วนจากจีนไปยังอินเดีย เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดผลกระทบจากสงครามการค้าโลก ล่าสุดมีรายงานว่า Apple สามารถผลิต iPhone ได้มูลค่ารวมสูงถึง 22,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 726,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 12 เดือนนับตั้งแต่มีนาคมปีที่ผ่านมา สะท้อนการเติบโตที่พุ่งขึ้นกว่า 60% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
การย้ายฐานมาผลิต iPhone ในอินเดียครั้งนี้ทำให้มูลค่าการผลิตจากประเทศในเอเชียใต้แห่งนี้คิดเป็นสัดส่วนถึง 20% ของการผลิต iPhone ทั้งหมด เท่ากับว่า 1 ใน 5 ของ iPhone ที่วางจำหน่ายทั่วโลกมาจากโรงงานในอินเดีย ซึ่งสถานที่สำคัญในการประกอบ iPhone อยู่ที่โรงงานของ Foxconn Technology Group ทางตอนใต้ของประเทศ รวมถึงโรงงานของ Tata Group ที่เข้าซื้อกิจการจาก Wistron Corp. และควบคุม Pegatron Corp. ไว้ด้วย
เหตุผลเบื้องหลังการขยายกำลังผลิตในอินเดียยังเกี่ยวพันกับปัจจัยการเมืองระดับโลก โดยเฉพาะมาตรการกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยออกประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเป็นชุด ๆ จากฝั่งจีน จนทำให้หลายบริษัทเลือกหนีปัญหาโดยย้ายการผลิตไปยังประเทศอื่น
ทั้งนี้ยังมีข่าวดีสำหรับ Apple เมื่อสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางชนิดได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติมไปเมื่อไม่นานมานี้ ช่วยประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ Apple มั่นใจขยายกำลังผลิตในอินเดีย คือโครงการสนับสนุนของรัฐบาลนเรนทรา โมดี ที่ต้องการผลักดันให้อินเดียกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีระดับโลก โดยมอบสิทธิประโยชน์และเงินอุดหนุนให้ผู้ผลิตต่างชาติที่มาสร้างฐานการผลิตในประเทศ พร้อมปรับโครงสร้างพื้นฐานให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตั้งแต่ระบบขนส่งไปจนถึงแรงงานฝีมือ