รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศแผนทุ่มเงินกว่า 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 825,000 ล้านบาท) หวังช่วยเหลืออุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ หลังโดนผลกระทบหนักจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา ที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเกาหลีใต้สูงถึง 25%

นายชเว ซัง-ม็อก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของเกาหลีใต้ เผยแผนนี้หลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหลักอย่างรถยนต์และเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของประเทศ

เกาหลีใต้จะใช้งบประมาณสูงถึง 17,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือบริษัทที่ได้รับความเสียหายจากภาษีนำเข้า รวมถึงจัดสรรเงินอุดหนุนเพิ่มอีก 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เป็นการเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำอีก 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับบริษัทเซมิคอนดักเตอร์โดยตรง

หนึ่งในมาตรการที่น่าสนใจคือการสร้าง Mini-Fab หรือโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขนาดเล็กที่มีลักษณะเหมือนโรงงานจริง เพื่อดึงดูดบริษัทด้านออกแบบชิปฯ เข้ามาทดลองใช้เครื่องมือในการผลิต ช่วยให้การพัฒนาสินค้าใหม่รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ในลักษณะเดียวกับศูนย์ IMEC ของเบลเยียม เพื่อดึงดูดบุคลากรด้านเทคโนโลยีจากทั่วโลกมาร่วมงาน

ทั้งนี้ เกาหลีใต้ยังเตรียมพบปะหารือกับสหรัฐฯ เพื่อแก้ไขปัญหาสงครามการค้า โดยนายชเว ซัง-ม็อก จะเดินทางไปประชุมร่วมกับนายสกอตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเกาหลีใต้ยังคงเดินหน้าแผนงานข้างต้นทั้งหมดอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเลวร้ายลงหากการเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จ