มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอของ Meta เจอศึกหนักในศาลสัปดาห์นี้ เมื่ออีเมลส่วนตัวเมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่เขาคุยเรื่องการซื้อ Instagram ถูกคณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ (FTC) ขุดขึ้นมาเป็นหลักฐานเด็ดในคดีต่อต้านการผูกขาดครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ผลของคดีนี้อาจขึ้นอยู่กับว่าซักเคอร์เบิร์กจะแก้ตัวเรื่องอีเมลเหล่านี้ได้น่าเชื่อแค่ไหน

FTC งัดอีเมลสุดแซ่บจากปี 2012 ออกมาโชว์ ในนั้นซักเคอร์เบิร์กเขียนชัด ๆ ว่าการซื้อ Instagram จะช่วย “กำจัดคู่แข่ง” คำพูดนี้ถูกทนายของ FTC เรียกว่า “หลักฐานชิ้นเด็ด” เลยทีเดียว แถมในอีเมลปี 2018 เขายังพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะแยก Instagram ออก เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล โดยบอกว่า “ถ้ามีการเรียกร้องให้แยกยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า เราอาจต้องแยก Instagram และ WhatsApp ออกอยู่ดี”

FTC ต้องการให้ Meta ขาย Instagram และ WhatsApp ออกไป โดยชี้ว่าอีเมลของซักเคอร์เบิร์กเป็นหลักฐานว่า Meta ใช้กลยุทธ์ซื้อหรือทำลายเพื่อกำจัดแอปฯ หน้าใหม่ที่อาจท้าทายบัลลังก์โซเชียลมีเดียของตัวเอง

ซักเคอร์เบิร์กขึ้นให้การในศาลตั้งแต่วันจันทร์ และโดนย่างสดถึงสามวันเต็ม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายต่อต้านการผูกขาดอย่าง รีเบคกา ฮอว์ อัลเลนส์เวิร์ธ (Rebecca Haw Allensworth) บอกว่า อีเมลเหล่านี้คือหลักฐานที่สำคัญของฝั่ง FTC และจะเป็น “บาดแผล” ที่ตามหลอกหลอน Meta ไปตลอดคดีนี้ ซึ่งอาจยืดเยื้อไปอีกหลายปีก็เป็นได้

อีเมลร้อน ๆ ในอดีตมีประเด็นอะไรบ้าง ?

  • ปี 2011 : ซักเคอร์เบิร์กบ่นกับลูกน้องว่า Instagram “กำลังจี้ตามหลัง” Facebook อยู่ใกล้ ๆ ไม่ไกลแล้ว
  • ปี 2012 : เขากังวลว่า Instagram “อาจทำร้าย Facebook ได้” และเป็น “ภัยคุกคามตัวยง”
  • ปี 2012 (อีกฉบับ) : เขาคุยกับ เชอรีล แซนด์เบิร์ก (Sheryl Sandberg) อดีต COO ว่า “Messenger สู้ WhatsApp ไม่ได้ และ Instagram โตเร็วกว่าเราจนต้องซื้อด้วยเงิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ”
  • ปี 2013 : ซักเคอร์เบิร์กหัวเสียที่ อีแวน สปีเจล (Evan Spiegel) ผู้ก่อตั้ง Snapchat ปฏิเสธข้อเสนอซื้อตัว 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
  • อีเมลอื่น ๆ เผยว่าเขากลัว WhatsApp จะถูก Google คว้าไปก่อน และกังวลว่าแอปฯ อย่าง WeChat จากจีนอาจสร้างโซเชียลเน็ตเวิร์กมาแทนที่ Facebook

ซักเคอร์เบิร์กแก้ตัวในศาลว่า อีเมลเหล่านี้ไม่ได้แสดงเจตนาต่อต้านการแข่งขัน แต่เป็นความหวาดระแวงของเขาที่กลัวคู่แข่งจะแซงหน้า เขายกตัวอย่าง TikTok ที่กลายเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด ในปี 2019 และอ้างคำพูดของอดีตซีอีโอ Intel ว่า “คนหวาดระแวงเท่านั้นที่รอด” เพื่อบอกว่างานของเขาคือต้องคอยจับตาคู่แข่งตลอดเวลา

ส่วนเรื่อง Instagram เขาบอกว่าการซื้อกิจการช่วยให้ Instagram เติบโต ไม่ใช่ไปขัดขวาง และถ้าไม่มี Facebook หนุนหลัง Instagram อาจไม่รุ่งถึงขนาดนี้ ส่วนอีเมลที่พูดถึงการแยก Instagram เขาอ้างว่าเป็นการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในตอนนั้น ที่ Meta เจอแรงกดดันจากรัฐสภา