Timothy Arcuri นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัย Cowen & Company ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การที่ iPhone 8 จะเปลี่ยนมาใช้หน้าจอ OLED แทนที่จอ LCD แบบเดิมนั้นมีผลทำให้ตัวเลขต้นทุนการผลิตนั้นสูงขึ้นประมาณ 50 ล้านเหรียญฯ และจะส่งผลต่อตัวเลขกำไรต่อปีในไตรมาส 2 ปี 2017 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะคงที่ไม่สูงเกินกว่า 38.8%
Acuri วิเคราะห์ว่า จอ OLED นั้นจะเพิ่มประสิทธิภาพในด้านวัตถุดิบมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความยืดหยุ่นและการกินพลังงานที่น้อยลง แต่มีข้อเสียในเรื่องของต้นทุนที่แพง รวมทั้งผู้ผลิตในตลาดอาจมีอุปสรรคในการผลิตจอ OLED ได้ในปริมาณที่ Apple ต้องการ เนื่องจากจอ OLED นั้นเป็นที่ต้องการในตลาดสูง ซึ่งผู้ผลิตก็ต้องผลิตจอให้กับแบรนด์อื่นๆ เช่นกัน
ทั้งนี้ Apple เตรียมจะประกาศผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดในวันนี้ ซึ่ง Arcuri คาดการณ์ตัวเลขยอดจำหน่ายไอโฟนอยู่ที่ 76 ล้านเครื่อง และมีแนวโน้มว่าจะมีรายได้ต่อปีที่เพิ่มขึ้นซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีในตัว iPhone 7 Plus มาช่วยประคองสถานการณ์เอาไว้ได้ โดย iPhone 7 Plus นั้นคาดว่าจะขายได้ราว 23.5 ล้านเครื่อง ขณะที่ iPhone 7 นั้นอยู่ที่ 35 ล้านเครื่อง และปิดท้ายด้วย iPhone SE ที่ไตรมาสนี้จะอยู่ที่ 8 ล้านเครื่อง