Google ได้เปิดตัว Android Wear 2.0 อย่างเป็นทางการ โดยพัฒนาระบบไปมากจนเกือบจะสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเลย เพราะมีการรองรับ Wi-Fi (รวมถึง LTE ในบางครั้ง) และสามารถเปิดใช้งานแอปได้โดยไม่ต้องเปิดสมาร์ทโฟน โดยมีฟีเจอร์ต่างๆที่น่าสนใจ ดังนี้

1. ใช้งานง่าย

 สิ่งที่เป็นปัญหาหลักของสมาร์ทว็อทช์ก็คือหน้าจอที่ยุ่งยาก แต่ใน Android Wear 2.0 ทาง Google ได้รับปรับให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น ดังนี้
  • ปัดนิ้วไปซ้าย-ขาว : เปลี่ยนรูปแบบหน้าปัดนาฬิกา
  • ปัดนิ้วขึ้น : ดูการแจ้งเตือน
  • ปัดนิ้วลง : เปิดแถบ Setting
  • กดปุ่มหลัก : เข้าสู่รายการแอป
  • กดปุ่มหลักค้าง : เปิดใช้งาน Google Assistant

ในหน้า UI แบบใหม่ จะแสดงเพียงแค่ข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการ และรองรับการใช้งานแบบ Rotational ซึ่งเป็นการเลื่อนหน้าจอไปยังเมนูต่างๆด้วยเม็ดมะยมที่อยู่ขอบข้างตัวเรือน

2. ปรับแต่งได้ตามต้องการ

Android Wear รุ่นก่อนสามารถดาวน์โหลดหน้าปัดนาฬิกาผ่านแอป Third-Party ได้ตามต้องการ สำหรับใน Android Wear 2.0 นั้น ผู้ใช้จะสามารถปรับแต่งหน้าปัดนาฬิกาได้ตามต้องการผ่านนาฬิกาโดยตรง ทั้งสี, ภาพพื้นหลัง และรูปแบบการแสดงผล

3. ใช้งานแอป Third-Party ได้มากขึ้น

นักพัฒนาแอปสามารถเพิ่มการแสดงผลบนหน้าปัดนาฬิกาได้มากขึ้น โดยสามารถแสดงข้อมูลและเข้าแอปไปพร้อมกันได้ แต่อาจทำให้นาฬิกาทำงานช้าลง โดยในขณะนี้จะแสดงผลเป็นข้อมูลสั้นๆในวงกลม และคาดว่าจะได้รับการอัปเดตเพิ่มเติมในอนาคต

4. ใช้แอปโดยไม่ต้องเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน

ผู้ใช้สามารถเข้าเว็บไซต์ Google Play ค้นหาแอปที่ต้องการ คลิกปุ่มเพื่อทำการติดตั้งแอปลงบนนาฬิกา และเข้าใช้งานแอปได้โดยตรง แต่การรูปแบบการค้นหานั้นอาจดูแปลกตาจากสมาร์ทโฟนพอสมควร

5. GOOGLE FIT

Google พยายามเพิ่มฟังก์ชั่นให้ Android Wear 2.0 สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้น โดยที่น่าสนใจก็คือ Google Fit ที่รวบรวมเอาการออกกำลังกายต่างๆ พร้อมด้วยภาพสาธิตการออกกำลังกายบนหน้าจอ ซึ่งจะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว

6. มีเซ็นเซอร์มากขึ้น

สำหรับสมาร์ทว็อทช์ที่ติดตั้งระบบ Android Wear 2.0 นอกจากกจะรองรับ Bluetooth ได้แล้ว ยังสามารถรองรับฟีเจอร์ของ Wi-Fi, LTE, GPS, NFC และเซ็นเซอร์ตรวจวัดการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย ส่งผลให้สามารถใช้งาน Android Pay ได้

7. ส่งข้อความได้

การตอบข้อความ ถือได้ว่าเป็นฟีเจอร์เด่นอีกอย่างหนึ่งของ Android Wear 2.0 โดยผู้ใช้สามารถสามารถเขียนตัวอักษรลงไปได้ ซึ่งสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังมีแป้นพิมพ์ QWERTY ขนาดเล็กให้ใช้อีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง : theverge